Sha Tau Kok อยู่ในย่านตอนเหนือของฮ่องกงติดกับเขตเอี้ยนเทียนในเมืองเซินเจิ้น และถูกกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ปิดบริเวณแนวพรมแดนในปี 1951 เมื่อที่นี่เริ่มเปิดให้เข้าชมมากขึ้นเรื่อย ๆ Sha Tau Kok ก็กลายเป็นตัวเลือกชั้นเยี่ยมสำหรับการพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ ค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ อาหารเลิศรส และประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองชายแดนแห่งนี้
บริเวณไกลสุดทางตะวันออกของ Sha Tau Kok มีป้ายบอกทางเก่า ๆ ที่ระบุว่า “Cape of Sha Tau Kok” พร้อมบอกพิกัดเอาไว้ ที่หน้าป้าย คุณจะพบแผ่นหินที่สลักบทกวีสองบรรทัด: “สุริยันทอแสงเกยหาด (Sha Tau) / จันทราลอยเด่นเหนือแหลม (Kok)” ตามตำนานเล่าขานกันว่าบทกวีเหล่านี้เขียนโดยอัครมหาเสนาบดีแห่งราชวงศ์ชิง ผู้ซึ่งหลงใหลในทิวทัศน์แสนตระการตาระหว่างการมาเยือนชายฝั่งของมณฑลกวางตุ้ง ตั้งแต่นั้นมา พื้นที่นี้จึงเป็นที่รู้จักในชื่อ “Sha Tau Kok” เพลิดเพลินกับทิวทัศน์แบบพาโนรามาของแนวชายฝั่งธรรมชาติ Starling Inlet ซึ่งคุณสามารถผ่อนคลายและฟังเสียงคลื่นทะเลที่ช่วยประโลมใจ ราวกับว่าเวลานั้นได้หยุดลง เช่นเดียวกับเวลาของนักกวีในยามที่เขารู้สึกประทับใจกับทิวทัศน์อันงดงามเบื้องหน้า
รู้หรือไม่ว่าท่าเรือที่ยาวที่สุดในฮ่องกงอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ของ Sha Tau Kok? ท่าเรือ Sha Tau Kok สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1960 และได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี 2004 โดยมีความยาว 280 เมตร ตั้งอยู่ห่างจากเกาะ Kat O และเกาะ Ap Chau เพียง 20 ถึง 30 นาทีหากโดยสารเรือเฟอร์รี่ เนื่องจากบริเวณริมฝั่ง Sha Tau Kok เป็นน้ำตื้น พื้นที่ท่าเรือจึงยื่นออกไปถึงบริเวณน้ำลึกในทะเลเพื่อให้เรือเทียบท่าได้ง่ายขึ้น ดังนั้นจุดขึ้นเรือจึงตั้งอยู่กลางทะเล
“สุริยันทอแสงเกยหาด (Sha Tau) / จันทราลอยเด่นเหนือแหลม (Kok)” บทกวีเหล่านี้สะท้อนถึงช่วงกลางวันและกลางคืนของ Sha Tau Kok ได้อย่างงดงาม ศาลาสุริยันกับจันทราซึ่งตั้งอยู่ตรงมุมอ่าว เป็นสถานที่อันเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการชมทิวทัศน์ตระการตา ณ ที่แห่งนี้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับแสงแรกยามรุ่งอรุณและเริงรื่นไปกับแดนอาร์เคเดียแห่งผืนป่าและน่านน้ำในอ่าว หรือดื่มด่ำกับยามอาทิตย์อัสดงที่สาดแสงสีทองรำไร เมื่อตกกลางคืน แสงจันทร์จะส่องกระทบบนผืนน้ำท่ามกลางบรรยากาศสงบเงียบ
แม้จะมีขนาดไม่ได้ใหญ่มาก แต่ Sha Tau Kok ก็มีมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่มรวย การเชิดโคมไฟรูปปลาของ Sha Tau Kok มีต้นกำเนิดมาจากตระกูล Wu ชาวจีนแคะในหมู่บ้าน Shalanxia เมื่อสมัยราชวงศ์ชิงตอนต้น โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี และได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระดับชาติในปี 2008 การเชิดเลียนแบบการเคลื่อนไหวของปลาแสดงให้เห็นถึงประเพณีการสักการะเจ้าแม่ทินหัวของชาวจีนแคะ นักเชิดจะถือโคมไฟรูปปลาที่จุดเทียน แล้วร่ายรำไปตามจังหวะเสียงฆ้องและเสียงกลองเพื่อจำลองให้โลกใต้ทะเลนี้ดูมีชีวิตชีวา บริเวณริมน้ำของจัตุรัสโคมไฟรูปปลา นักท่องเที่ยวสามารถชมการเชิดโคมไฟรูปปลาผ่านศิลปะจัดแสดงสีสันสดใส รวมถึง Enggie Pup และ Arttie Kitty ซึ่งเป็นมาสคอตของ LCSD
สถานีดับเพลิงเก่าของ Sha Tau Kok ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกถนน Shun Lung และถนน Shun Ping โดยเปิดทำการในปี 1962 และหยุดดำเนินการในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2004 เนื่องจากมีการสร้างสถานีดับเพลิงแห่งใหม่บนถนน Shun Hing สถานีดับเพลิงเก่าแก่แห่งนี้ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งลักษณะเดิม โดยในปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่สำคัญอันโดดเด่นของ Sha Tau Kok โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประตูสีแดงสะดุดตาที่มีความสูงน้อยกว่าประตูมาตรฐานเป็นอย่างมาก ในบางครั้งจะมีการจัดแสดงแบบจำลองรถลากดับเพลิงอายุนับศตวรรษขนาด 1:1 ที่บริเวณทางเข้า โดยนักท่องเที่ยวสามารถชมสิ่งประดิษฐ์ทางประวัติศาสตร์เพียงชิ้นเดียวที่จัดแสดงกลางแจ้งในฮ่องกงนี้ได้อย่างใกล้ชิด
ถนน Chung Ying มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่สำคัญเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นถนนที่คร่อมชายแดน ในช่วงแรกของการปฏิรูปและการเปิดประเทศ จีนแผ่นดินใหญ่มีความต้องการด้านเสบียงเป็นอย่างมาก จึงมีพ่อค้าชาวฮ่องกงจำนวนไม่น้อยไปตั้งร้านค้าที่ถนน Chung Ying เพื่อขายสินค้าท้องถิ่นให้กับลูกค้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ หลายปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย จึงมีเพียงผู้ถือใบอนุญาตเข้าถึงพื้นที่ปิดซึ่งจำเป็นต้องอยู่อาศัย ใช้ชีวิต หรือทำงานที่นี่เท่านั้นจึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในถนน Chung Ying สำหรับประชาชนทั่วไปในฮ่องกง ถนน Chung Ying ยังคงเป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์และความลึกลับ บริเวณด้านหน้าจุดตรวจบนถนน Chung Ying เป็นที่ตั้งของสวนริมถนน Chung Ying ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั้งหมดของถนนสายลึกลับได้จากดาดฟ้าชมวิว นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถชมหัวรถจักรจำลองขนาดเท่าของจริงที่อยู่หน้าผนังของแบบจำลองสถานีรถไฟย้อนยุค และสามารถขอพรด้วยการแขวนป้ายขอพรบนราวดาดฟ้าชมวิวได้อีกด้วย
ตลาดและศูนย์อาหารปรุงสุก Sha Tau Kok ให้บริการแก่คนในท้องถิ่นเป็นหลัก ศูนย์อาหารให้บริการอาหารฮากกาต้นตำรับ ส่วนถนนจำหน่ายอาหารทะเลแห้งก็เต็มไปด้วยอาหารทะเลแห้ง เช่น กระเพาะปลาและปลาเค็ม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสินค้าโฮมเมด และบางร้านยังสามารถให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้ด้วย หากคุณกำลังมองหาของที่ระลึกจาก Sha Tau Kok ก็ห้ามพลาดถนนสุดพิเศษสายนี้!
ถนน Shun Ping อยู่ใกล้กับสถานีดับเพลิงเก่า โดยชื่อของถนนหมายถึงความโชคดีและความอยู่ดีมีสุข บริเวณริมถนนมีภาพจิตรกรรมบนกำแพงสองภาพเกี่ยวกับพิธีขอบคุณพระเจ้า ซึ่งเป็นกิจกรรมทางวัฒนธรรมดั้งเดิมใน Sha Tau Kok จนถึงปัจจุบัน ผู้อยู่อาศัยใน Sha Tau Kok ยังคงเฉลิมฉลองเทศกาลทินหัวเป็นประจำทุกปี และจัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่ทุก ๆ 10 ปี ในภาพจิตรกรรมดังกล่าว คุณจะได้เห็นหนึ่งในพิธีเฉลิมฉลองที่โดดเด่นมากที่สุด ซึ่งได้แก่ การระบำเรือมังกรที่แสดงโดยหญิงสาวชาวฮกเกี้ยน
Sha Tau Kok Chuen สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1988 เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยให้กับชาวพื้นเมือง Yim Liu Ha และ Tsoi Yuen Kok ที่ได้รับผลกระทบจากการรุกรานพื้นที่ โดยครอบคลุมพื้นที่กว่า 35,000 ตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วยตึก 52 หลังพร้อมแฟลต 802 ห้อง เดิมที อาคารจัดสรรเหล่านี้ทาสีด้วยโทนสีธรรมชาติ แต่ต่อมา Ying Hoi House ได้นำการออกแบบที่แปลกแหวกแนวมาปรับใช้ และทาด้วยสีสันสดใสเพื่อผสมผสานสไตล์และพลังงานให้เข้ากับ Sha Tau Kok ตั้งแต่ปี 2020 ตึกเก่าในพื้นที่ดังกล่าวได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยส่วนหน้าอาคารได้รับการตกแต่งใหม่ด้วยการทาสีม่วง สีส้ม สีชมพู และสีเขียวแอปเปิ้ล บางตึกทาสีส้มพาสเทลตัดด้วยแถบแนวนอนสีขาวดูคล้ายเนื้อปลาแซลมอน จนได้รับฉายาว่า "แซลมอนเฮ้าส์"
ในทศวรรษ 1960 เขตหลบภัยไต้ฝุ่น Sha Tau Kok เป็นจุดเทียบท่าเรือประมงของชาวฮกเกี้ยนและชาวเรืออื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ตอนที่พายุไต้ฝุ่นแวนด้าถล่มฮ่องกงเมื่อปี 1962 เรือประมงส่วนใหญ่ได้ถูกทำลาย ดังนั้น ชาวประมงจึงขึ้นชายฝั่งและสร้างบ้านยกสูง ซึ่งค่อย ๆ กลายเป็นพื้นที่บุกรุกขนาดใหญ่ ในปี 1985 รัฐบาลจึงเปิดตัวโครงการฟื้นฟู Sha Tau Kok ขึ้นใหม่โดยจัดให้มีที่อยู่อาศัยที่รัฐบาลอุดหนุนในชนบท สามปีต่อมา ผู้อยู่อาศัยที่บุกรุกพื้นที่ได้ถูกย้ายไปยังบ้านจัดสรรแห่งใหม่นี้ ส่วนบ้านยกสูงก็กลายเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Starling Inlet เป็นดั่งกระจกเงาธรรมชาติบานใหญ่ ซึ่งคอยสะท้อนภาพทั้งบ้านยกสูงในสมัยก่อนและเรือประมงลำเล็กลำน้อยในปัจจุบัน เผยให้เห็นทิวทัศน์ที่วิวัฒนาการมาตลอดหลายทศวรรษ
ในปี 1930 บ้านตระกูล Luo สร้างขึ้นเพื่อเป็นฐานทัพสำหรับกองโจรต่อต้านญี่ปุ่นที่เข้ามาในฮ่องกงระหว่างการต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น นอกเหนือจากการสนับสนุนที่ตั้งทางยุทธศาสตร์แล้ว ตระกูล Luo ยังมีบทบาทสำคัญในช่วงเวลานี้ด้วยเช่นกัน โดยสมาชิกในตระกูลจำนวน 11 คนได้เข้าร่วมกองพันอิสระฮ่องกงแห่ง Dongjiang Column ซึ่งเป็นกองกำลังของกองโจรต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น ปัจจุบัน บ้านหลังนี้ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นอาคารอนุสรณ์สถานสงครามต่อต้านญี่ปุ่น Sha Tau Kok ของฮ่องกง ซึ่งมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของกองพันอิสระฮ่องกงแห่ง Dongjiang Column และการมีส่วนร่วมของตระกูล Luo
หอศึกษา Kang Yung ในหมู่บ้าน Sheung Wo Hang สร้างขึ้นโดยตระกูล Li ในช่วงต้นราชวงศ์ชิง แต่เดิมก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นโรงเรียนเอกชนสำหรับนักเรียนในพื้นที่ ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษา และปิดทำการเมื่อนักเรียนกลุ่มสุดท้ายสำเร็จการศึกษาในช่วงฤดูร้อนปี 1986 หอศึกษา Kang Yung ได้รับการประกาศให้เป็นอนุสรณ์สถานในปี 1991
ขนมผักกาดทอดเป็นอาหารว่างของชาวจีนแคะที่ทำจากส่วนผสมต่าง ๆ เช่น หัวไชเท้าหั่นฝอย กุ้งแห้ง และเครื่องเทศ ก่อนนำไปทอดจนเป็นสีน้ำตาลทอง อาหารว่างริมทางของฮ่องกงที่อายุนับร้อยปีนี้มีลักษณะเป็นชั้น ๆ คล้ายกับพัฟสมัยใหม่ซึ่งทำจากหัวไชเท้าหั่นฝอย ขนมผักกาดทอดสูตรดั้งเดิมหารับประทานได้ค่อนข้างยากในเขตเมืองของฮ่องกง แต่ Sha Tau Kok ยังคงอนุรักษ์อาหารเลิศรสนี้ไว้ เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบรสชาติที่ชวนนึกถึงอดีตได้ลิ้มลอง
ในสมัยก่อน หญิงสาวชาวจีนแคะที่แต่งงานแล้วจะเตรียมข้าวหน้าหมูในช่วงใกล้สิ้นปี เพื่อมอบเป็นของขวัญตรุษจีนแก่พ่อแม่และเพื่อนบ้าน อาหารดั้งเดิมจานนี้ถือเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ใน Sha Tau Kok มาช้านาน ส่วนผสมในการทำนั้นเรียบง่าย เว้นแต่เนื้อหมูที่ต้องนึ่งเป็นเวลานานหลายชั่วโมงจนนุ่มละลายในปาก เนื้อหมูจะดูดซับรสชาติเข้มข้นของถั่วดำหมักและขิงฝานบาง ๆ ที่วางไว้ด้านบน จนเกิดเป็นเมนูแสนอร่อย ซึ่งจะทำให้คุณไม่อาจหยุดรับประทานได้เลย!
อาหารจีนกวางตุ้งมีตัวเลือกหน้าบะหมี่จำนวนมาก แล้วคุณเคยลองรับประทานหอยนางรมคู่กับบะหมี่บ้างหรือไม่? หอยนางรมตัวใหญ่เนื้อฉ่ำห่ออย่างประณีตด้วยแป้งไข่แผ่นหนา ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย แล้วนำไปทอดในกระทะจนสุกหอม หอยนางรมจานนี้อัดแน่นไปด้วยรสชาติกลมกล่อมพร้อมเสิร์ฟร้อน ๆ คู่กับบะหมี่ รับรองว่าหอยนางรมในปริมาณที่จุใจนี้จะถูกปากนักชิมอย่างแน่นอน!
ของว่างจากปลาหมึกที่ Sha Tau Kok มาในรูปแบบไข่ม้วนกับเนื้อปลาหมึกบด ซึ่งต่างกับของว่างจากปลาหมึกที่มีรูปร่างเหมือนพายทั่ว ๆ ไป รสชาติอันโอชะของไข่และรสชาติละเอียดลออของปลาหมึกนั้นเข้ากันได้อย่างลงตัว ไข่ม้วนไส้ปลาหมึกที่นุ่มและหนึบหนับทุกคำที่กัดแสดงให้เห็นถึงความหลงใหลในการทำอาหารของเชฟ
อาหารจานนี้ปรุงอย่างพิถีพิถันโดยคัดสรรเฉพาะเนื้อไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อยและมีหนังบาง ๆ เนื้อไก่ที่ปรุงพร้อมกับผักหมักเกลือสไตล์ฮากกาจะซึมซับรสชาติแสนละเอียดอ่อน จนได้รสสัมผัสที่เข้มข้นและกลมกล่อม เนื้อไก่แต่ละชิ้นมีหนังเรียบเนียนเป็นมันวาวพร้อมให้สัมผัสที่นุ่มละมุน ชวนให้ลิ้มลองอย่างยิ่ง!
ขนมภรรยา (sweetheart cake) ของ Sha Tau Kok มีขนาดที่กำลังพอดี ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป โดยมีเปลือกเป็นชั้นสวยงามที่ทั้งกรอบและบาง ซึ่งจะแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทันทีในทุกคำที่กัด มาพร้อมไส้สูตรลับที่มีความหวานเล็กน้อย ทำให้เค้กมีรสชาติกลมกล่อมและเนื้อสัมผัสที่นุ่มเคี้ยวหนึบ
มะนาวดองน้ำผึ้งเป็นวิธีรักษาอาการเจ็บคอแบบดั้งเดิมในท้องถิ่น แต่ปัจจุบันยาบำรุงเพื่อสุขภาพดังกล่าวมักมีวางจำหน่ายเป็นเครื่องดื่มบรรจุขวดสำเร็จรูป ใน Sha Tau Kok คุณจะพบร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องดื่มดั้งเดิมสูตรโฮมเมดเหล่านี้ เช่น มะนาวดองน้ำผึ้ง เครื่องดื่มน้ำผึ้งผสมบ๊วย และชาดอกเก๊กฮวยแบบชงเอง เครื่องดื่มเหล่านี้ยังสามารถปรับแต่งให้ได้รสชาติตามที่คุณชอบได้ด้วย!
เปลือกที่หวานกรุบกรอบและเนื้อที่นุ่มหอมกรุ่นของขนมปังสับปะรดนั้นเข้ากันได้อย่างลงตัว เมื่อสอดไส้ด้วยคอร์นบีฟรสเลิศและไข่ทอด การผสมผสานระหว่างรสชาติหวานเค็มนี้ได้สร้างประสบการณ์ด้านอาหารที่น่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น เผยถึงความยอดเยี่ยมทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัส ยิ่งพอจับคู่กับชานมรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมสูตรเฉพาะแล้ว ชุดน้ำชายามบ่ายแสนอร่อยนี้จะทำให้คุณอิ่มเอมใจไปตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน
ที่ Sha Tau Kok ก็มีเบอร์เกอร์รสเลิศเช่นกัน! ลองนึกภาพเบอร์เกอร์แฮนด์เมดที่มีเนื้อเบอร์เกอร์ชุ่มฉ่ำเรียงซ้อนกันสูงพร้อมด้วยวัตถุดิบเคียงคู่มากมาย แต่ละคำที่กัดจะสัมผัสได้ถึงการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเนื้อเบอร์เกอร์ชุ่มฉ่ำและขนมปังปิ้งได้ที่ ชีสกึ่งละลายและผักกาดหอมสดกรอบ ควรรับประทานขณะยังร้อน ให้หมดภายในห้านาที!
สิ่งใดจะให้ความสดชื่นได้มากเท่าการดื่มน้ำปั่นสักแก้วขณะเดินเล่นไปตามถนน Sha Tau Kok ในฤดูร้อนที่แดดจ้า? น้ำปั่นใน Sha Tau Kok มีหลายรสชาติ โดยเครื่องดื่มโยเกิร์ตโพรไบโอติกและเครื่องดื่มจากผลไม้นานาชนิดนั้นได้รับความนิยมมากที่สุด ทำใหม่ตามสั่งทุกแก้ว รับประกันความสดใหม่