The Airport Authority Hong Kong has launched a new Refund Application Platform for the air passenger departure tax (APDT) starting from 1 October 2025. Eligible passengers who have paid the APDT at the time of purchasing the air tickets may easily apply for tax refunds by simply uploading supporting documents to the platform. For more details, please visit the website www.APDTRefund.hk.
หากเดินลัดเลี้ยวไปตามถนน Shanghai คุณจะพบกับหอคอยเขียงที่เรียงซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบอยู่หน้าร้าน Man Kee Chopping Board (萬記砧板) ร้าน Man Kee เป็นร้านที่ตั้งอยู่บนถนน Shanghai มานานกว่า 65 ปี โดยจำหน่ายเขียงสำหรับสับแล่ ซึ่งมีลูกค้าประจำเป็นร้านอาหาร พ่อค้าขายเนื้อ และร้านขายเนื้อย่าง ปัจจุบัน ร้านนี้ดูแลโดยทายาทรุ่นที่สองและรุ่นที่สาม ได้แก่ สามีภรรยาตระกูล Au และลูกชายซึ่งคือคุณ Mike ผู้ที่มีความสนใจในธุรกิจของครอบครัวตลอดเวลาและให้ความสำคัญต่อมรดกตกทอดของครอบครัวเหนือสิ่งอื่นใด ร้าน Man Kee ยังจำหน่ายเครื่องครัวอื่น ๆ นอกเหนือจากเขียงเพื่อให้ทันต่อยุคสมัย
Chan Chi Kee (陳枝記) เป็นอีกหนึ่งร้านเด่นประจำถนน Shanghai ซึ่งจำหน่ายมีดทำครัวคุณภาพสูงและเครื่องใช้ในครัวอื่น ๆ พนักงานที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญซึ่งทำงานให้ตระกูล Chan มานานหลายทศวรรษได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นร้านที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ลูกค้าของร้าน Chan Chi Kee ได้แก่ Shangri-La และ Disneyland รวมถึงร้านอาหารจีนทั่วโลก
มีดของร้านเป็นมีดทำมือที่ผลิตขึ้นจากความพยายามร่วมกันของช่างฝีมือทั้งสี่คน แม้ว่าตอนนี้กระบวนการบางส่วนจะใช้เครื่องจักรแทนแล้วก็ตาม นอกจากนี้ กระทะเหล็กของร้าน Chan Chi Kee ยังนิยมใช้ผัดอาหารในร้านอาหารท้องถิ่น เนื่องจากขึ้นชื่อสำหรับการนำไฟสูงและกระจายความร้อนได้ดี
เข่งไม้ไผ่เป็นเครื่องครัวที่ขาดไม่ได้ในการทำอาหารกวางตุ้ง ลองไปที่ Ming Shan Steel Bamboo Receptacle (明生鋼竹蒸籠廠) เพื่อเลือกดูเข่งไม้ไผ่ที่ต่างขนาดและหลากรูปทรง อาจารย์ Lui Ming เจ้าของร้านที่อายุมากกว่า 90 ปี ได้เริ่มสานเข่งไม้ไผ่ตั้งแต่อายุ 32 ปี และยังคงสานเข่งบางส่วนที่จำหน่ายอยู่ในร้าน อาจารย์ Lui Ming เป็นผู้บุกเบิกการนำเหล็กมาใช้เป็นขอบและข้อต่อของเข่งไม้ไผ่ ซึ่งทำให้สินค้ามีอายุการใช้งานนานขึ้นและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในร้านอาหารจีนทั่วโลก ตอนนี้ ร้านสาขาถนน Shanghai ที่บริหารงานโดยคุณ Lui Lok-koon ผู้เป็นบุตรชาย ส่วนอาจารย์ Lui ใช้เวลาทั้งวันไปกับการผลิตตามคำสั่งซื้อในโรงงาน Tuen Mun ของตน และถ่ายทอดความหลงใหลในงานฝีมือที่มีมาตลอดชีวิตผ่านการคิดค้นงานประดิษฐ์ใหม่ ๆ และทำให้งานฝีมือเดิมสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
เชื่อกันว่าหยกจะนำพาโชคลาภและช่วยให้ผู้สวมใส่มีสุขภาพดี ทั้งยังเป็นของขวัญยอดนิยม เพียงต้องถามให้แน่ใจถึงความหมายที่แฝงอยู่ของหินชนิดต่าง ๆ และความสำคัญของลวดลายการออกแบบ! แม้จะมีการย้ายที่ตั้ง แต่ตลาดค้าหยกก็ยังมีแผงจำหน่ายเครื่องประดับหยก เครื่องประดับชิ้นเล็ก ๆ และงานประติมากรรมที่น่าประทับใจมากมาย ตลาดแห่งนี้เกิดขึ้นในปี 1984 และกลายเป็นที่นิยมของคนในท้องถิ่นตลอดจนนักท่องเที่ยว
แม้ว่าอุตสาหกรรมหยกของฮ่องกงในปัจจุบันจะไม่โดดเด่นเท่าช่วงทศวรรษที่ 1950 แต่คุณจะประทับใจกับความมั่งคั่งเมื่อเดินไปตามเส้นทางที่มีแสงสลัวของตลาดแห่งนี้
นอกจากนี้ยังมีนักเขียนอักษรที่เชี่ยวชาญด้านการเขียนอักษรจีน กรอกแบบฟอร์มการคืนภาษี และบริการด้านการเขียนอื่น ๆ อุตสาหกรรมนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อมีการประกาศให้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการของฮ่องกง และประชากรส่วนใหญ่ไม่รู้วิธีอ่านหรือเขียนภาษาอังกฤษ แม้จะยังคงมีผู้ให้บริการเหล่านี้อยู่สองสามราย แต่ก็ถือว่าเป็นผู้ให้บริการกลุ่มสุดท้ายสำหรับธุรกิจที่อาจไม่มีความจำเป็นในยุคดิจิทัล
Koon Nam Wah (冠南華) เป็นร้านชุดแต่งงานจีนที่เปิดให้บริการในปี 1920 เชี่ยวชาญด้านชุดราตรีและเสื้อสูทที่ปักอย่างประณีตบรรจง โดยส่วนมากจะประดับลายมังกรและนกฟีนิกซ์อันเป็นมงคล ซึ่งเป็นลวดลายทรงเกียรติที่จักรพรรดิและเจ้าสาวเจ้าบ่าวชาวจีนนิยมใช้ ผ้าไหมผืนงามเผยความมีชีวิตชีวาผ่านเส้นด้ายสีทองและสีเงินที่บรรจงปักเป็นลวดลายต่าง ๆ ด้วยมือตลอดทั้งสัปดาห์จนถึงทั้งปี
คนดังในท้องถิ่นจำนวนมากได้รับความช่วยเหลือด้านเครื่องแต่งกายจากช่างตัดเสื้อฝีมือดีของร้าน รวมถึงนักแสดงและนักร้องอย่าง Liza Wang และนักร้องโอเปร่าอย่าง Law Kar-ying นอกจากนี้ ป้ายนีออนของร้านยังเป็นหนึ่งในป้ายที่น่าจดจำมากที่สุดในพื้นที่ และเป็นหนึ่งในป้ายกลุ่มสุดท้ายที่ยังมีการใช้อยู่ในเมืองนี้
โรงงาน Cheung Shing Fans Factory (祥盛檀香扇莊) เปิดทำการในปี 1950 โดยจำหน่ายพัดไม้จันทน์หอมและธูปหอมบนถนน Shanghai มานานกว่าครึ่งศตวรรษ ครั้งหนึ่ง พัดที่ไม้จันทน์หอมเคยเป็นส่วนสำคัญของชนชั้นสูงและเป็นสัญลักษณ์สำหรับความมั่งคั่ง โดยจะใช้เป็นเครื่องประดับเพื่อแสดงถึงหน้าที่การงานของตน แต่เดิมร้าน Cheung Shing ตั้งอยู่บนถนน Shanghai เพื่อรองรับนักเดินเรือซึ่งจะจอดเทียบท่าที่เขตหลบพายุไต้ฝุ่นเยามะไต๋ และเข้าเมืองเพื่อหาซื้อเสบียง ตั้งแต่อาหารไปจนถึงธูปหอมเพื่อใช้สำหรับไหว้ขอพรให้การเดินทางปลอดภัยที่วัดทินหัว รวมถึงไหว้บนเรือของตนเขาด้วย
คุณลุง King จากร้าน Biu Kee Mahjong (標記麻雀) เป็นหนึ่งในช่างฝีมือรุ่นสุดท้ายในฮ่องกงที่ยังคงทำไพ่นกกระจอกด้วยมือ ซึ่งถือเป็นงานฝีมือที่หาชมแทบไม่ได้แล้วในปัจจุบัน เกมไพ่นกกระจอกมีรากฐานฝังลึกอยู่ในประเพณีจีน ซึ่งตามธรรมเนียมจะเล่นในวันรวมญาติและในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น วันตรุษจีน
คุณลุง King จะนั่งบนเก้าอี้ทำงานที่หันเข้าหาถนน Jordan แล้วบรรจงสลักสัญลักษณ์และตัวเลขลงบนหน้าพลาสติกผิวเรียบของไพ่เปล่า ก่อนจะเพิ่มความมีชีวิตชีวาด้วยเทคนิคการใช้สี คุณลุง King สืบทอดร้านต่อจากคุณพ่อและฝึกฝนฝีมือมาเป็นเวลานานกว่า 50 ปี นอกจากชุดไพ่นกกระจอกแบบดั้งเดิมแล้ว คุณลุง King ยังทำไพ่ตามสั่งที่สามารถสลักทุกอย่างตั้งแต่ชื่อไปจนถึงตัวการ์ตูน ไม่เพียงเท่านี้ คุณลุง King ยังจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปแกะสลักไพ่นกกระจอกสำหรับผู้ที่ต้องการลองทำไพ่ด้วยมือตัวเอง และทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อสร้างสรรค์ชิ้นงานสำหรับนิทรรศการศิลปะ
คุณ Miru Wong เป็นเจ้าของรุ่นที่สามที่ดูแลร้าน Sindart (先達商店) ซึ่งเป็นร้านเล็ก ๆ ที่ก่อตั้งในปี 1958 โดยจำหน่ายรองเท้าปักลายแบบจีนโบราณ รองเท้าผ้าไหมเหล่านี้เป็นที่นิยมในหมู่สตรีชนชั้นสูงและสตรีชนชั้นกลางสำหรับสวมใส่ในบ้าน
คุณ Miru Wong เริ่มฝึกฝนการเย็บปักถักร้อยกับคุณยายตอนอยู่ชั้นประถมศึกษา และเรียนรู้วิธีทำรองเท้าจากคุณปู่ตอนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย รองเท้าของร้าน Sindart เป็นรองเท้าที่ทำด้วยมือทั้งหมด โดยนำการออกแบบดั้งเดิมมาใช้กับองค์ประกอบสมัยใหม่ และเพิ่มลวดลายสัตว์ต่าง ๆ เช่น หมีแพนด้าและนกฮูก ประกอบกับลวดลายรูปแบบใหม่ เช่น ดอกคามิเลียและดอกซากุระ นอกจากรองเท้าสวมใส่ในบ้านแล้ว ร้าน Sindart ยังจำหน่ายรองเท้าส้นเตี้ยและรองเท้าส้นสูงสำหรับใส่นอกบ้าน รวมถึงเครื่องประดับและกระเป๋าถือ คุณ Miru ได้ยกระดับงานฝีมือแบบดั้งเดิมไปอีกขั้น ด้วยการรวมองค์ประกอบแบบใหม่เข้ากับผลิตภัณฑ์ ขณะคงไว้ซึ่งต้นแบบที่แท้จริง
ใกล้กันนั้นคือร้าน Shanghai Baoxing Qipao (上海寶星時裝祺袍) ที่อาจารย์ Yan เพียรพยายามทำกี่เพ้าและแจ็คเก็ตผ้าฝ้ายจีนด้วยมือของตัวเองมาเป็นเวลากว่า 65 ปีแล้ว ผลงานทั้งหมดของอาจารย์ Yan ต้องมีการวัดตัวก่อนสั่งตัด ดังนั้น อย่าคาดหวังที่จะซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากร้านนี้ อาจารย์ Yan ทำชุดกี่เพ้าสำหรับผู้เข้าประกวดมิสฮ่องกง รวมถึงเหล่าคนดังต่าง ๆ เช่น Anita Mui, Maggie Cheung และ Michelle Yeoh รวมถึงรับผิดชอบเครื่องแต่งกายทั้งหมดสำหรับนักแสดงหญิงส่วนใหญ่ในภาพยนตร์ของผู้กำกับ Wong Kar-wai เพื่อรักษาชิ้นส่วนอันล้ำค่าของประวัติศาสตร์จีนไว้ อาจารย์ Yan จึงจัดตั้งชั้นเรียนเกี่ยวกับศิลปะการทำกี่เพ้าสำหรับนักเรียนแฟชั่นและการออกแบบ