เมื่อพูดถึง Lei Yue Mun หลายคนคงนึกถึงอาหารทะเลเป็นอันดับแรก แต่ย่านอันทรงเสน่ห์แห่งนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายให้ค้นหา นอกเหนือจากอาหารทะเลแสนอร่อย Lei Yue Mun ซ่อนตัวอยู่ห่างจากความวุ่นวายของเมือง แต่มีการเดินทางที่สะดวก โดยเดินจากสถานี MTR Yau Tong ทางฝั่งตะวันออกของอ่าววิคตอเรียไป 15 นาทีเท่านั้น คุณสามารถชมทิวทัศน์ทะเลที่สวยงามตระการตาได้จากที่นี่ และยังได้สัมผัสการเปลี่ยนแปลงของ Lei Yue Mun จากเหมืองหินที่เคยรุ่งเรืองสู่จุดหมายปลายทางที่มีโด่งดังเรื่องอาหารแสนอร่อย ศิลปะและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รวมถึงมรดกทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่า ไม่ว่าคุณจะมองหาการผจญภัยด้านอาหาร แรงบันดาลใจทางศิลปะ หรือการย้อนรอยอดีตของฮ่องกง Lei Yue Mun ก็พร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับคุณอย่างแน่นอน
ในอดีต ฮ่องกงเคยรุ่งเรืองในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการผลิตหินอย่างแพร่หลาย โดยเหมืองหิน Lei Yue Mun ก็เคยเป็นเหมืองหินสำคัญแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่ออุตสาหกรรมเริ่มซบเซาลงในช่วงทศวรรษ 1980 เหมืองจึงถูกทิ้งร้าง เหลือไว้แต่เพียงบ้านหินเก่าไม่กี่หลังภายในพื้นที่ ปัจจุบันเหมืองแห่งนี้กลายเป็นจุดยอดนิยมสำหรับคนรักการถ่ายภาพ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยทุ่งกกสีทองอร่าม สร้างบรรยากาศชวนหลงใหล ในยามพระอาทิตย์ตกดิน ทุ่งกก บ้านหินร้าง และภูเขาสูงตระหง่านผสานกันเป็นทิวทัศน์อันงดงาม เหมาะสำหรับการถ่ายภาพลงอินสตาแกรมแบบสุดๆ
เชื่อกันว่าวัด Tin Hau ในหมู่บ้าน Ma Wan สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิงเมื่อปี 1753 เพื่อบูชา Tin Hau เทพธิดาแห่งท้องทะเล มีความเชื่อว่าเทพธิดาองค์นี้มีพลังคุ้มครองชาวประมงจากพายุ วัดเกรด III แห่งนี้ผ่านการบูรณะมาแล้วสองครั้งในช่วงทศวรรษ 1950 ถึง 1980 และยังคงยืนหยัดผ่านกาลเวลามาได้อย่างมั่นคง วัดแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่หลังโขดหินยักษ์ที่สลักข้อความอวยพร โดยเป็นวัดที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากวัด Tin Hau อื่นๆ ในเมือง และยังคงดึงดูดผู้ศรัทธาจากทุกมุมของฮ่องกงและที่อื่นๆ ให้มาเยี่ยมเยือนอย่างไม่ขาดสาย
Get your camera ready and head to Ma Wan Village, where a team of dedicated volunteers have breathed new life into the village with colourful murals. These eye-catching harbour-side artworks capture the essence of the neighbourhood, featuring iconic landmarks such as the archway, local shops and the seafood market. You can also find tales of old Lei Yue Mun on the murals, showcasing scenes of mining operations and the lighthouse faithfully guiding ships along the waterways.
ประภาคาร Lei Yue Mun ตั้งตระหง่านอยู่บนเกาะหินเล็กๆ ริมขอบ Lei Yue Mun โดยทำหน้าที่เป็นดวงไฟนำทางให้กับเรือที่สัญจรผ่านช่องแคบ Lei Yue Mun มานานกว่าครึ่งศตวรรษ ประภาคารแห่งนี้ยังเป็นหลักฐานแห่งการเติบโตและพัฒนาของ Lei Yue Mun ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการขนส่งการค้าต่างประเทศอีกด้วย ในช่วงน้ำลง นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังประภาคารและชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกที่สวยงามน่าทึ่งได้
ภายใต้โครงการปรับปรุงพื้นที่ริมน้ำ Lei Yue Mun ล่าสุด ได้มีการสร้างชานชมวิวใหม่และจุดชมวิวหลักหลายแห่งตลอดทางเดินเลียบน้ำ ชานชมวิวใหม่ดังกล่าวโดดเด่นด้วยดีไซน์สมัยใหม่ และทำหน้าที่เป็นพื้นชานต่างระดับที่เชื่อมทางเดินจากสวนสาธารณะ Lei Yue Mun Rest Garden สู่หาด Oyster Shell Beach จากจุดชมวิวนี้ คุณจะได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันงดงามของชายฝั่งตะวันออกของฮ่องกง และสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม
สถานที่นี้ตั้งอยู่ในอาคารที่เคยเป็นโรงเรียน Hoi Bun โรงเรียนประจำแห่งแรกในหมู่บ้าน Lei Yue Mun ซึ่งปิดตัวลงในปี 2008 Jockey Club Lei Yue Mun Plus เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ผสมผสานการศึกษา วัฒนธรรม มรดกทางประวัติศาสตร์ และศิลปะเข้าด้วยกัน ศูนย์แห่งนี้มีเป้าหมายเพื่ออนุรักษ์มรดกประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของ Lei Yue Mun อาคารที่อยู่บนพื้นที่กว่า 485 ตารางเมตรที่ได้รับการฟื้นฟูแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการสร้างสรรค์ที่มีชีวิตชีวา โดยมีการจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยท้องถิ่นและโบราณวัตถุที่ชาวบ้านเก็บรวบรวมไว้ นอกจากนี้ยังมีกำแพงวัฒนธรรมที่บอกเล่าการพัฒนาอุตสาหกรรมเหมืองแร่และเครื่องปั้นดินเผาใน Lei Yue Mun ด้วย อย่าลืมติดตามนิทรรศการศิลปะ กิจกรรมทางวัฒนธรรม เวิร์กช็อป และการบรรยายที่น่าสนใจซึ่งจัดขึ้นที่นี่อย่างต่อเนื่อง
ถัดจากที่กำบังพายุ Lei Yue Mun คุณจะพบกับซุ้มประตู Lei Yue Mun สีแดงและน้ำเงินอันโดดเด่น สัญลักษณ์ของทางเข้าสู่ย่านอาหารทะเลชื่อดังแห่งนี้ Lei Yue Mun เปลี่ยนแปลงจากหมู่บ้านเหมืองเก่ากลายเป็นตลาดอาหารทะเลที่คึกคัก และเป็นสวรรค์ของคนรักอาหารทะเลที่เต็มไปด้วยร้านอาหารและแผงขายอาหารทะเลสดมากมาย คุณสามารถเลือกซื้ออาหารทะเลสดใหม่ที่ตลาด และคัดสรรวัตถุดิบด้วยตัวคุณเอง แล้วนำไปให้ร้านอาหารใกล้เคียงปรุงเป็นเมนูสุดอร่อย จากนั้นก็เลือกนั่งโต๊ะริมหาด และลิ้มลองอาหารทะเลท้องถิ่นแท้ๆ ไปพร้อมกับชมวิวอันตระการตาของอ่าววิคตอเรีย
ในอดีต ฮ่องกงเคยรุ่งเรืองในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการผลิตหินอย่างแพร่หลาย โดยเหมืองหิน Lei Yue Mun ก็เคยเป็นเหมืองหินสำคัญแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่ออุตสาหกรรมเริ่มซบเซาลงในช่วงทศวรรษ 1980 เหมืองจึงถูกทิ้งร้าง เหลือไว้แต่เพียงบ้านหินเก่าไม่กี่หลังภายในพื้นที่ ปัจจุบันเหมืองแห่งนี้กลายเป็นจุดยอดนิยมสำหรับคนรักการถ่ายภาพ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยทุ่งกกสีทองอร่าม สร้างบรรยากาศชวนหลงใหล ในยามพระอาทิตย์ตกดิน ทุ่งกก บ้านหินร้าง และภูเขาสูงตระหง่านผสานกันเป็นทิวทัศน์อันงดงาม เหมาะสำหรับการถ่ายภาพลงอินสตาแกรมแบบสุดๆ
เชื่อกันว่าวัด Tin Hau ในหมู่บ้าน Ma Wan สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิงเมื่อปี 1753 เพื่อบูชา Tin Hau เทพธิดาแห่งท้องทะเล มีความเชื่อว่าเทพธิดาองค์นี้มีพลังคุ้มครองชาวประมงจากพายุ วัดเกรด III แห่งนี้ผ่านการบูรณะมาแล้วสองครั้งในช่วงทศวรรษ 1950 ถึง 1980 และยังคงยืนหยัดผ่านกาลเวลามาได้อย่างมั่นคง วัดแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่หลังโขดหินยักษ์ที่สลักข้อความอวยพร โดยเป็นวัดที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากวัด Tin Hau อื่นๆ ในเมือง และยังคงดึงดูดผู้ศรัทธาจากทุกมุมของฮ่องกงและที่อื่นๆ ให้มาเยี่ยมเยือนอย่างไม่ขาดสาย
Get your camera ready and head to Ma Wan Village, where a team of dedicated volunteers have breathed new life into the village with colourful murals. These eye-catching harbour-side artworks capture the essence of the neighbourhood, featuring iconic landmarks such as the archway, local shops and the seafood market. You can also find tales of old Lei Yue Mun on the murals, showcasing scenes of mining operations and the lighthouse faithfully guiding ships along the waterways.
ประภาคาร Lei Yue Mun ตั้งตระหง่านอยู่บนเกาะหินเล็กๆ ริมขอบ Lei Yue Mun โดยทำหน้าที่เป็นดวงไฟนำทางให้กับเรือที่สัญจรผ่านช่องแคบ Lei Yue Mun มานานกว่าครึ่งศตวรรษ ประภาคารแห่งนี้ยังเป็นหลักฐานแห่งการเติบโตและพัฒนาของ Lei Yue Mun ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการขนส่งการค้าต่างประเทศอีกด้วย ในช่วงน้ำลง นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังประภาคารและชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกที่สวยงามน่าทึ่งได้
ภายใต้โครงการปรับปรุงพื้นที่ริมน้ำ Lei Yue Mun ล่าสุด ได้มีการสร้างชานชมวิวใหม่และจุดชมวิวหลักหลายแห่งตลอดทางเดินเลียบน้ำ ชานชมวิวใหม่ดังกล่าวโดดเด่นด้วยดีไซน์สมัยใหม่ และทำหน้าที่เป็นพื้นชานต่างระดับที่เชื่อมทางเดินจากสวนสาธารณะ Lei Yue Mun Rest Garden สู่หาด Oyster Shell Beach จากจุดชมวิวนี้ คุณจะได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันงดงามของชายฝั่งตะวันออกของฮ่องกง และสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม
สถานที่นี้ตั้งอยู่ในอาคารที่เคยเป็นโรงเรียน Hoi Bun โรงเรียนประจำแห่งแรกในหมู่บ้าน Lei Yue Mun ซึ่งปิดตัวลงในปี 2008 Jockey Club Lei Yue Mun Plus เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ผสมผสานการศึกษา วัฒนธรรม มรดกทางประวัติศาสตร์ และศิลปะเข้าด้วยกัน ศูนย์แห่งนี้มีเป้าหมายเพื่ออนุรักษ์มรดกประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของ Lei Yue Mun อาคารที่อยู่บนพื้นที่กว่า 485 ตารางเมตรที่ได้รับการฟื้นฟูแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการสร้างสรรค์ที่มีชีวิตชีวา โดยมีการจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยท้องถิ่นและโบราณวัตถุที่ชาวบ้านเก็บรวบรวมไว้ นอกจากนี้ยังมีกำแพงวัฒนธรรมที่บอกเล่าการพัฒนาอุตสาหกรรมเหมืองแร่และเครื่องปั้นดินเผาใน Lei Yue Mun ด้วย อย่าลืมติดตามนิทรรศการศิลปะ กิจกรรมทางวัฒนธรรม เวิร์กช็อป และการบรรยายที่น่าสนใจซึ่งจัดขึ้นที่นี่อย่างต่อเนื่อง
ถัดจากที่กำบังพายุ Lei Yue Mun คุณจะพบกับซุ้มประตู Lei Yue Mun สีแดงและน้ำเงินอันโดดเด่น สัญลักษณ์ของทางเข้าสู่ย่านอาหารทะเลชื่อดังแห่งนี้ Lei Yue Mun เปลี่ยนแปลงจากหมู่บ้านเหมืองเก่ากลายเป็นตลาดอาหารทะเลที่คึกคัก และเป็นสวรรค์ของคนรักอาหารทะเลที่เต็มไปด้วยร้านอาหารและแผงขายอาหารทะเลสดมากมาย คุณสามารถเลือกซื้ออาหารทะเลสดใหม่ที่ตลาด และคัดสรรวัตถุดิบด้วยตัวคุณเอง แล้วนำไปให้ร้านอาหารใกล้เคียงปรุงเป็นเมนูสุดอร่อย จากนั้นก็เลือกนั่งโต๊ะริมหาด และลิ้มลองอาหารทะเลท้องถิ่นแท้ๆ ไปพร้อมกับชมวิวอันตระการตาของอ่าววิคตอเรีย
อยากดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์ของ Lei Yue Mun ไหม เพียงดาวน์โหลดแอป "City in Time" แล้วสแกนสัญลักษณ์ AR ที่ติดตั้งไว้ตามจุดชมวิวต่างๆ แอปนี้จะพาคุณเข้าสู่ภาพวาดพาโนรามา 360 องศาที่สร้างสรรค์โดยศิลปินชื่อดังของฮ่องกง พร้อมด้วยภาพถ่ายเก่าแก่และข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้คุณเดินทางย้อนรอยประวัติศาสตร์ของ Lei Yue Mun ได้
คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดอีบุ๊กที่จะพาคุณสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวของ Lei Yue Mun ซึ่งเผยให้เห็นมรดกทางวัฒนธรรมและทัศนียภาพที่โดดเด่นของย่านนี้
เดินทางไปยังพื้นที่รอบนอกของ Lei Yue Mun แล้วคุณจะพบกับ Gateway Cuisine ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับประภาคาร Lei Yue Mun ร้านอาหารแห่งนี้โดดเด่นด้วยหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน การตกแต่งที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และครัวเปิดที่มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารชั้นเลิศ พร้อมเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของอ่าววิคตอเรีย Gateway Cuisine มอบความสุขให้กับลูกค้าด้วยอาหารทะเลแสนอร่อยหลากหลายเมนูตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา อาหารจานเด็ดของที่นี่ได้แก่ กั้งทอดเกลือพริก กุ้งย่างซีอิ๊วและล็อบสเตอร์ทอด
Hyde Park Garden Restaurant เป็นร้านอาหารขึ้นชื่อที่ได้รับการแนะนำจากมิชลิน โดยร้านนี้ให้บริการอาหารท้องถิ่นรสชาติดั้งเดิม ร้านแห่งนี้มีอาหารทะเลสดใหม่ที่คัดสรรมาจากแหล่งคุณภาพเยี่ยม และพนักงานผู้เชี่ยวชาญจะช่วยแนะนำวิธีการปรุงที่เหมาะสมกับวัตถุดิบที่คุณเลือก เมนูแนะนำได้แก่ ซาชิมิล็อบสเตอร์ ล็อบสเตอร์อบชีส ปูผัดขิงและต้นหอม และยังมีหอยลายผัดเต้าซี่อีกด้วย สำหรับคนรักเนื้อ ทางร้านยังมีเมนูอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารทะเล เช่น ไก่ทอดกรอบ หมูเปรี้ยวหวาน และอื่นๆ อีกมากมาย
The Walnut Shop ก่อตั้งขึ้นในปี 1968 และเติบโตเป็นแบรนด์ครอบครัวอันเป็นที่รัก สืบทอดกันมาถึงสามรุ่น ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 40 แห่งทั่วเมือง ร้านนี้มุ่งมั่นสร้างสรรค์ขนมแฮนด์เมดที่ดีต่อสุขภาพ ปราศจากวัตถุกันเสีย และคงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกงเอาไว้ แวะเยี่ยมชมสาขาแรกที่ Lei Yuen Mun ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของร้านนี้ และเลือกซื้อขนมแสนอร่อยหลากหลายชนิด อย่างวอลนัทเคลือบน้ำตาล ถั่วต่างๆ ผลไม้แห้ง ผลไม้ดอง ขนมหวาน ขนมไหว้พระจันทร์ เนื้อแห้ง ผงชงเครื่องดื่ม และอื่นๆ อีกมากมาย
ด้วยประวัติยาวนานกว่า 50 ปี ร้านเบเกอรี่ท้องถิ่นที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัวแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องขนมอบและของว่างรสชาติดั้งเดิมในราคาย่อมเยา เมื่อก้าวเข้าร้าน คุณจะได้กลิ่นหอมเย้ายวนของขนมอบสดใหม่ ที่นี่มีขนมกว่า 20 ชนิด ซึ่งล้วนแต่รังสรรค์อย่างประณีตโดยเชฟขนมอบของร้าน เมนูที่ห้ามพลาดคือขนมเปี๊ยะแม่ทูนหัว (wife cake) ซึ่งเป็นขนมแป้งบางกรอบสไตล์กวางตุ้งที่มีไส้ฟักเชื่อมและงา นอกจากนี้ ยังมีไข่ม้วนกรอบ คุกกี้อัลมอนด์ และคุกกี้วอลนัทที่อร่อยไม่แพ้กันด้วย
Lung Tang Restaurant เป็นร้านอาหารทะเลดั้งเดิมที่นำเสนอรสชาติอันเลิศล้ำของท้องทะเล ดื่มด่ำกับเมนูอาหารทะเลหลากหลาย อย่างปูม้าเย็นสไตล์แต้จิ๋ว ซุปทะเลร้อนๆ แสนอบอุ่นหัวใจ หอยหลอดนึ่งกระเทียมและวุ้นเส้น หอยนางรมและลูกชิ้นกุ้งทอด กั้งทอดเกลือพริก และเมนูอาหารทะเลจานเด็ดอีกมากมายที่ยากจะต้านทาน
เดินทางไปยังพื้นที่รอบนอกของ Lei Yue Mun แล้วคุณจะพบกับ Gateway Cuisine ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับประภาคาร Lei Yue Mun ร้านอาหารแห่งนี้โดดเด่นด้วยหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน การตกแต่งที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และครัวเปิดที่มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารชั้นเลิศ พร้อมเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของอ่าววิคตอเรีย Gateway Cuisine มอบความสุขให้กับลูกค้าด้วยอาหารทะเลแสนอร่อยหลากหลายเมนูตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา อาหารจานเด็ดของที่นี่ได้แก่ กั้งทอดเกลือพริก กุ้งย่างซีอิ๊วและล็อบสเตอร์ทอด
Hyde Park Garden Restaurant เป็นร้านอาหารขึ้นชื่อที่ได้รับการแนะนำจากมิชลิน โดยร้านนี้ให้บริการอาหารท้องถิ่นรสชาติดั้งเดิม ร้านแห่งนี้มีอาหารทะเลสดใหม่ที่คัดสรรมาจากแหล่งคุณภาพเยี่ยม และพนักงานผู้เชี่ยวชาญจะช่วยแนะนำวิธีการปรุงที่เหมาะสมกับวัตถุดิบที่คุณเลือก เมนูแนะนำได้แก่ ซาชิมิล็อบสเตอร์ ล็อบสเตอร์อบชีส ปูผัดขิงและต้นหอม และยังมีหอยลายผัดเต้าซี่อีกด้วย สำหรับคนรักเนื้อ ทางร้านยังมีเมนูอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารทะเล เช่น ไก่ทอดกรอบ หมูเปรี้ยวหวาน และอื่นๆ อีกมากมาย
The Walnut Shop ก่อตั้งขึ้นในปี 1968 และเติบโตเป็นแบรนด์ครอบครัวอันเป็นที่รัก สืบทอดกันมาถึงสามรุ่น ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 40 แห่งทั่วเมือง ร้านนี้มุ่งมั่นสร้างสรรค์ขนมแฮนด์เมดที่ดีต่อสุขภาพ ปราศจากวัตถุกันเสีย และคงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกงเอาไว้ แวะเยี่ยมชมสาขาแรกที่ Lei Yuen Mun ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของร้านนี้ และเลือกซื้อขนมแสนอร่อยหลากหลายชนิด อย่างวอลนัทเคลือบน้ำตาล ถั่วต่างๆ ผลไม้แห้ง ผลไม้ดอง ขนมหวาน ขนมไหว้พระจันทร์ เนื้อแห้ง ผงชงเครื่องดื่ม และอื่นๆ อีกมากมาย
ด้วยประวัติยาวนานกว่า 50 ปี ร้านเบเกอรี่ท้องถิ่นที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัวแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องขนมอบและของว่างรสชาติดั้งเดิมในราคาย่อมเยา เมื่อก้าวเข้าร้าน คุณจะได้กลิ่นหอมเย้ายวนของขนมอบสดใหม่ ที่นี่มีขนมกว่า 20 ชนิด ซึ่งล้วนแต่รังสรรค์อย่างประณีตโดยเชฟขนมอบของร้าน เมนูที่ห้ามพลาดคือขนมเปี๊ยะแม่ทูนหัว (wife cake) ซึ่งเป็นขนมแป้งบางกรอบสไตล์กวางตุ้งที่มีไส้ฟักเชื่อมและงา นอกจากนี้ ยังมีไข่ม้วนกรอบ คุกกี้อัลมอนด์ และคุกกี้วอลนัทที่อร่อยไม่แพ้กันด้วย