From 1 October 2025, the Hong Kong Government will expand the scope of passengers exempted from the air passenger departure tax. For more information, please click here.
Bar Leone ได้รับตำแหน่งอันดับ 1 ใน Asia’s 50 Best Bars 2025 ซึ่งเป็นปีที่สองติดต่อกันที่บาร์แห่งนี้ได้รับความสนใจสูงสุด
ผลงานการสร้างสรรค์โดยมิกโซโลจิสต์ชื่อดัง Lorenzo Antinori, Bar Leone ในย่าน SoHo เปิดให้บริการในปี 2023 ปีแรกที่เปิดตัว บาร์แห่งนี้ได้รับตำแหน่งสูงสุดใน Asia’s 50 Best Bars 2024 และตำแหน่งรองชนะเลิศใน The World's 50 Best Bars 2024 กลายเป็นบาร์หน้าใหม่ที่ได้อันดับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ 50 Best Bars
บาร์ในย่านนี้มีบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย โปรแกรมบาร์ที่ยอดเยี่ยมซึ่งนำเสนอค็อกเทลคลาสสิกที่ถูกนำกลับมาปรับปรุงด้วยแนวทางที่เรียบง่าย และการบริการที่มีคุณภาพระดับโรงแรม ทำให้ Bar Leone เป็นที่ชื่นชอบของทั้งชาวท้องถิ่น นักท่องเที่ยว และบุคคลในวงการบาร์ ลองลิ้มรสเครื่องดื่มสร้างสรรค์ เช่น Olive Oil Sour ที่สดชื่น และค็อกเทลมาร์ตินีและเนโกรนีหลากหลายเมนู พร้อมกับของทานเล่นอย่างมะกอกรมควันและแซนด์วิชมอร์ตาเดลลาที่กลายเป็นตำนาน
Argo ตั้งอยู่ในโรงแรมโฟร์ซีซั่นของฮ่องกง โดยได้ชื่อมาจากเรือที่เจสันและอาร์โกนอตส์ในตำนานเทพเจ้ากรีกใช้โดยสารเพื่อตามหาขนแกะทองคำ บาร์แห่งนี้มีวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่งเพราะมีหน้าต่างบานใหญ่จากพื้นจรดเพดาน ทำให้แสงธรรมชาติสาดส่องเข้ามาได้อย่างเต็มที่ การตกแต่งภายในผสมผสานการออกแบบที่ทันสมัยเข้ากับองค์ประกอบจากธรรมชาติ สร้างบรรยากาศที่น่าดึงดูดและกลมกลืนกันเป็นอย่างดี บาร์แห่งนี้บริหารงานโดย Federico Balzarini มีเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย โดยเป็นสุราท้องถิ่นและสร้างสรรค์ขึ้นเองซึ่งหาไม่ได้จากที่ไหนในเมือง ค็อกเทลของที่นี่มักใช้ส่วนผสมในท้องถิ่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการดำเนินกิจการอย่างยั่งยืน เมนูปัจจุบันที่ชื่อ Argo Forestry ผสมผสานหลักการด้านการเกษตรและป่าไม้เข้าด้วยกัน สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดค็อกเทลโดดเด่นที่สะท้อนถึงความงามอันหลากหลายของผืนป่า ถึงแม้จะเป็นบาร์ในโรงแรม แต่แนวทางการผสมเครื่องดื่มที่สนุกสนานและเป็นกันเองของพวกเขา เมื่อผสานกับความแปลกใหม่ อย่างการใส่ลูกอมเยลลี่ลงในเมนูเครื่องดื่มอัดลม ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปยามออกท่องสถานบันเทิงยามค่ำคืนในเมือง
Coa ซึ่งตั้งชื่อตามเครื่องมือที่ใช้เก็บเกี่ยวต้นอะกาเว เป็นร้านที่แสดงความรักต่อสุราเม็กซิกัน บาร์แห่งนี้ก่อตั้งโดย Jay Khan และเป็นบาร์ที่มีสุราจากต้นอะกาเวมากที่สุดในฮ่องกง โดยมีเมซคาลและเตกีล่ากว่า 200 ขวด Coa สร้างชื่อเสียงโดยติดอันดับ 50 บาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียตั้งแต่ปี 2019 ค็อกเทลแก้วเด็ดอย่าง La Paloma de Oaxaca ที่ขอบแก้วโรยเกลือหนอน (Worm Salt) เน้นย้ำถึงความทุ่มเทของบาร์ในด้านคุณภาพและการสร้างสรรค์ บรรยากาศดิบ เท่ ย้อนยุคนิดๆ สไตล์อินดัสเทรียลชิคที่มีแสงเทียนส่องสว่างเหมาะสำหรับทั้งผู้ชื่นชอบสุราจากต้นอะกาเวและผู้มาเยือนที่อยากลองอะไรใหม่ๆ
Penicillin คือบาร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งแรกของฮ่องกง ซึ่งปฏิวัติวงการค็อกเทลด้วยแนวทางที่ไม่สร้างขยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บาร์แห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากแอนตี้ไบโอติกที่ล้ำสมัย และตั้งเป้าจะเป็นผู้นำในการดูแลสิ่งแวดล้อม ค็อกเทล One Penicillin One Tree ที่โดดเด่นของร้าน ซึ่งทำจากวิสกี้ที่เพิ่มไขมันด้วยไวท์ช็อกโกแลตนั้นเป็นมากกว่าแค่เครื่องดื่ม ทุกครั้งที่ซื้อเครื่องดื่มนี้ จะมีการปลูกต้นไม้หนึ่งต้นในป่าฝนกาลีมันตันบนเกาะบอร์เนียว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “One Penicillin, One Tree” ที่ร่วมมือกับ ecoSPIRITS และ Green Step Group ความมุ่งมั่นของ Penicillin ต่อการรักษาความยั่งยืนและการผสมเครื่องดื่มแบบใหม่อย่างสร้างสรรค์ทำให้ร้านแตกต่างจากร้านเครื่องดื่มอื่นๆ ในเมือง
ปลุกประสาทรับรสของคุณด้วยรสชาติอุมามิที่เข้มข้นและโดดเด่นที่ The Savory Project บาร์ค็อกเทลนวัตกรรมใหม่ที่ก่อตั้งโดยคู่ดูโอผู้คว้ารางวัล เจย์ ข่าน และ อาจิต กุรุง จาก Coa บาร์แห่งนี้ในย่าน SoHo เติมเต็มตลาดเฉพาะกลุ่มในวงการบาร์ของเมืองด้วยความเชี่ยวชาญด้านค็อกเทลรสเค็มที่ใช้วัตถุดิบที่มักพบในครัว เช่น เนื้อสัตว์ เห็ด และน้ำเกลือ จิบเครื่องดื่มสูตรพิเศษอย่าง Thai Beef Salad ที่ใช้รัมเป็นฐาน พร้อมพริกและใบมะกรูดเป็นเอกลักษณ์ ได้รับการยอมรับในเรื่องแนวทางที่ยอดเยี่ยมในการทำค็อกเทลและมิกโซโลยี และได้ครองตำแหน่งใน Asia’s 50 Best Bars ติดต่อกันเป็นปีที่สอง
Gokan เป็นธุรกิจแห่งแรกในฮ่องกงของมิกโซโลจิสต์ชาวญี่ปุ่นระดับโลก ชิงโกะ โกกัน ชื่อบาร์มาจากคำภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึง ‘ห้าประสาทสัมผัส’ บาร์แห่งนี้เปิดตัวที่อันดับ 33 ในรายการ Asia’s 50 Best Bars อันโด่งดังในปีแรกของการก่อตั้ง อย่าพลาดชิมค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรสชาติทั้งห้า ได้แก่ หวาน เปรี้ยว เค็ม ขม และอุมามิ เสิร์ฟแบบใส่น้ำแข็งหรือกรองเช็ด เช่นเดียวกับเมนูอาหารที่แบ่งออกเป็นห้าวิธีการปรุงพื้นฐาน และมีของทานเล่นสไตล์บาร์ญี่ปุ่นให้เลือกมากมาย เช่น ทูน่าทาร์ทาร์ โอเด้ง และน้ำแข็งไสคากิโกริ
เมื่อก้าวเข้าไปในร้าน 8 1/2 Otto e Mezzo Bombana ก็เหมือนได้ไปอิตาลี ทั้งที่อยู่ในฮ่องกง ร้านแห่งนี้ภาคภูมิใจที่เป็นร้านอาหารอิตาลีแห่งเดียวที่อยู่นอกอิตาลีซึ่งได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ถึงสามดาว นอกจากนี้ ยังมีบาร์แยกตัวออกมาที่คงคุณภาพและมาตรฐานสูงของร้านอาหารชื่อดังเอาไว้ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสวยงามซับซ้อน พร้อมด้วยที่นั่งหรูหรา และความรู้สึกที่ประณีต เมนูค็อกเทลที่นี่เชิดชูมรดกตกทอดของอิตาลี โดยมีเครื่องดื่มคลาสสิกที่นำมาปรุงใหม่พร้อมกลิ่นอายความทันสมัย โดยผสมผสานสุราที่ถูกลืมเลือนกับบิทเทอร์ท้องถิ่น เครื่องดื่มแต่ละแก้วได้รับการปรุงอย่างเชี่ยวชาญ มอบรสชาติประวัติศาสตร์อันยาวนานและรสสัมผัสแบบอิตาลี สะท้อนให้เห็นถึงชื่อเสียงของร้าน
Caprice Bar ในโรงแรมโฟร์ซีซั่นฮ่องกงมอบประสบการณ์การดื่มที่หรูหรา บาร์อันแสนอบอุ่นแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ Anyss Saintilan ผู้จัดการ Caprice Bar และมีบริเวณเชื่อมต่อกับ Caprice ร้านอาหารฝรั่งเศสของโรงแรมที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ เมนูของบาร์แห่งนี้มีไวน์ แชมเปญ และค็อกเทลที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถันซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก 6 ภูมิภาคของฝรั่งเศส โดยไม่ได้เน้นแค่เพียงผลผลิตที่เป็นที่รู้จักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัฒนธรรมและประเพณีของฝรั่งเศสที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักอีกด้วย หนึ่งในเมนูโดดเด่นของที่นี่ก็คือชีสที่คัดสรรมาอย่างดีซึ่งเข้ากับเครื่องดื่มชั้นเลิศได้อย่างสมบูรณ์แบบ การตกแต่งภายในด้วยที่นั่งอันหรูหราและทิวทัศน์สวยงามช่วยสร้างบรรยากาศที่หรูหราและเปี่ยมเสน่ห์ ไม่ว่าคุณจะจิบไวน์บอร์โดซ์หรือลองค็อกเทลสูตรพิเศษ Caprice Bar แห่งนี้ก็มอบการผสมผสานอันน่ารื่นรมย์ที่ผสานความเป็นเลิศด้านการทำอาหารและกลิ่นอายของปารีสให้คุณได้
DarkSide ตั้งอยู่ในย่านโรสวูดฮ่องกงอันหรูหรา โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อเล่น “Dark Side” ของเกาลูน และมีสุราจำพวกสีเข้มมากมาย อย่างรัมชั้นดี วิสกี้ และคอนยัค เมนูของร้านมีการพัฒนาอยู่เสมอ โดยเมนูค็อกเทลที่ชื่อว่า “หยินหยาง” ได้รับแรงบันดาลใจจากปรัชญาหยินหยางของจีนโบราณ ทั้งยังมีเครื่องดื่ม 8 ชนิดที่แสดงถึงหยินหยาง 4 ประเภทที่คู่กัน บรรยากาศเป็นกันเองพร้อมด้วยดนตรีแจ๊สสดช่วยเสริมประสบการณ์โดยรวมให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น มาจิบเครื่องดื่มค็อกเทลที่ผสมมาอย่างดีและปล่อยให้เพลงไพเราะจากศิลปินสดที่มากความสามารถพาคุณเข้าสู่โลกแห่งความสง่างามได้เลย
Lobster Bar ที่โรงแรมไอแลนด์แชงกรี-ลาเป็นบาร์ที่มอบพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจแสนหรูหราที่อยู่ห่างจากตัวเมืองที่พลุกพล่าน และยังเป็นบาร์ที่มีชื่อเสียงมายาวนานในฐานะสถานที่ฝึกฝนบาร์เทนเดอร์ที่มีชื่อเสียงของฮ่องกง บาร์แห่งนี้สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอด้วยอาหารทะเลชั้นยอดและค็อกเทลที่ปรุงอย่างเชี่ยวชาญ ที่นี่มีเครื่องดื่มหลากหลายชนิดหมุนเวียนกันไป โดยมีค็อกเทลคลาสสิกที่ผสานศิลปะเอเชีย สุราพื้นเมือง ไวน์ผสมเหล้า และเหล้าพรีเมียมเข้าไว้ด้วยกัน สำหรับผู้ไม่อยากดื่มแอลกอฮอล์ ก็มีเครื่องดื่มทำมือที่สั่งทำพิเศษไว้บริการเช่นกัน ด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาพร้อมด้วยการแสดงดนตรีแจ๊สสด Lobster Bar จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี
Mostly Harmless เป็นบาร์ค็อกเทลที่เสิร์ฟเครื่องดื่มที่ส่งตรงจากฟาร์มถึงแก้ว โดยมีบาร์เทนเดอร์ที่รังสรรค์เครื่องดื่มอันประณีตอย่าง Ezra Star เป็นหัวหน้าบาร์เทนเดอร์ซึ่งใช้ส่วนผสมจากท้องถิ่นสำหรับเครื่องดื่มเฉพาะของร้าน ชื่อของบาร์ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายเรื่อง The Hitchhiker's Guide to the Galaxy ทำให้ร้านมีแนวทางการผสมเครื่องดื่มที่สนุกสนานและสร้างสรรค์ เมนูตามฤดูกาลถูกขีดเขียนไว้ด้วยปากกาเมจิกบนผนังกระเบื้องสีขาวเก่าๆ ซึ่งเปลี่ยนมากที่สุดถึงวันละครั้ง แม้จะมีชื่อที่ดูร่าเริง แต่บาร์แห่งนี้ก็จริงจังกับศาสตร์ของพวกเขาทำให้ได้เมนูที่ทั้งสร้างสรรค์และอร่อย Mostly Harmless จึงกลายเป็นบาร์ที่มีชื่อเสียงในวงการบาร์ของฮ่องกงอย่างรวดเร็ว
Quinary เป็นสถานที่ที่วิทยาศาสตร์มาบรรจบกับการผสมเครื่องดื่มในแบบที่อร่อยที่สุด บาร์แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องค็อกเทลที่กระตุ้นประสาทสัมผัสหลายอย่างโดยใช้เทคนิคต่างๆ อย่างโฟม อากาศ และการชงเพื่อสร้างเครื่องดื่มที่เร้าหลากหลายประสาทสัมผัส อาทิ เมนู Earl Grey Caviar Martini อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งท็อปด้วยเนื้อสัมผัสแบบโฟมเป็นตัวอย่างของแนวทางที่สร้างสรรค์ของพวกเขา การตกแต่งภายในที่ทันสมัยและเก๋ไก๋ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับบาร์ที่ไม่เหมือนใครแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี ความทุ่มเทของ Quinary ในการก้าวข้ามขีดจำกัดของค็อกเทลทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่โปรดของผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่ม บาร์แห่งนี้ได้รับการยกย่องหลายครั้งในรายชื่อ 50 บาร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเอเชีย ซึ่งรับรองว่าการมาเยือนทุกครั้งของคุณจะเป็นประสบการณ์อันน่าจดจำ
Stockton ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตนอกกรอบและเต็มไปด้วยการผจญภัยของนักเขียนและนักข่าว ชื่อ ฮันเตอร์ เอส. ทอมป์สัน จึงกลายเป็นสถานที่ที่ทำให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมการดื่มสไตล์บาร์ลับ ในฐานะบาร์ลับแห่งแรกๆ ในฮ่องกง บาร์แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่หลังประตูอันเรียบง่ายบนถนนวินด์แฮม สถานที่แห่งนี้มีเมนูค็อกเทลที่ปรุงขึ้นอย่างประณีตหลากหลายชนิด แต่ละเมนูมีเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมด้วยเมนูตามฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้งซึ่งรับรองความสดใหม่และความตื่นเต้น การตกแต่งแบบผสมผสานและแสงไฟสลัวๆ ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเพลิดเพลินกับวิสกี้ระดับพรีเมียมหรือค็อกเทลที่อยู่เหนือกาลเวลา
Tell Camellia โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยเมนูเครื่องดื่มค็อกเทลผสมชา บาร์แห่งนี้ซึ่งนำโดย Gagan Gurung บาร์เทนเดอร์ชื่อดังชาวเนปาล มีเมนูเครื่องดื่มหลากหลายประเภท อย่างสุราและจินที่ปรุงขึ้นโดยใช้เทคนิคสมัยใหม่ เช่น การกลั่นและการหมุนเหวี่ยง ค็อกเทลแต่ละแก้วนำเสนอรสชาติจากประเทศต่างๆ โดยนำส่วนผสมคลาสสิกมาปรุงแต่งใหม่ด้วยวิธีอันชาญฉลาด เทคนิคสมัยใหม่และเครื่องดื่มที่คัดสรรมาอย่างดีของบาร์ทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดัง อีกทั้งหน้าต่างบานใหญ่และการตกแต่งภายในด้วยไม้โทนสีอบอุ่น ทำให้บาร์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เป็นกันเองและน่าดึงดูดใจสำหรับการดื่มด่ำเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของบาร์ ซึ่งรวมถึงเมนู T-Tonics ยอดนิยม ซึ่งเน้นย้ำแนวทางการใช้ชามาเป็นส่วนผสมที่สร้างสรรค์ของบาร์
The Aubrey ซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล สถานที่แห่งนี้ผสมผสานเสน่ห์แบบดั้งเดิมของอิซากายะญี่ปุ่นกับความสง่างามร่วมสมัยได้อย่างลงตัว โดยให้บริการแชมเปญและสุราญี่ปุ่นหลากหลายชนิด รวมถึงสาเกหายาก และยังมีค็อกเทลแปลกใหม่ที่ผสมผสานโชจูจาก 4 จังหวัดของญี่ปุ่นอีกด้วย ทุกวันศุกร์ สถานที่แห่งนี้จะปรับเปลี่ยนเป็นคลับสำหรับงาน “The Aubrey After Dark” ซึ่งเป็นงานหรูหราที่มีดนตรีสดจากดีเจชื่อดังทั้งในประเทศและต่างประเทศ
The Diplomat เป็นผลงานของ John Nugent นักผสมเครื่องดื่มที่ได้รับรางวัล บาร์ลับสุดเก๋แห่งนี้ให้บรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและมีสไตล์สำหรับผู้มาเยี่ยมชมบาร์ ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องมินิมาร์ตินี่ พั้นช์รสเด็ด และค็อกเทลคลาสสิกสุดสร้างสรรค์จึงเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มที่รังสรรค์อย่างประณีต The Diplomat ยังมี The Social Club พื้นที่พิเศษเฉพาะสำหรับการจองเท่านั้น โดยมีเมนูบาร์ของตัวเองและปุ่ม “กดเรียกแชมเปญ” อันทรงเสน่ห์ พร้อมด้วยคุกกี้อบสดใหม่ที่เสิร์ฟตอนเที่ยงคืนเพื่อเติมความหวานให้กับยามค่ำคืน ทำให้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับผู้ที่อยู่จนดึก
The Old Man ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายเรื่อง The Old Man and the Sea ของเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ โดยที่นี่ถือเป็นบาร์ที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของฮ่องกง สถานที่อันเป็นส่วนตัวแห่งนี้ประดับประดาด้วยแผงไม้และผนังที่เรียงรายไปด้วยหนังสือ สร้างฉากเบื้องหลังที่น่าดึงดูดสำหรับค็อกเทลที่สร้างสรรค์ เมนูของที่นี่ประกอบด้วยเครื่องดื่มธีมเฮมิงเวย์ ซึ่งแต่ละเมนูได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อสะท้อนถึงสไตล์ที่กล้าหาญและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนักเขียนในตำนาน ผู้มาเยือนสามารถจิบเครื่องดื่มได้ที่โต๊ะส่วนกลางรูปตัวไอ ซึ่งมีแถบทำความเย็นสีทองเพื่อรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่มให้เย็นพอดี ด้วยค็อกเทลที่รังสรรค์จากผู้เชี่ยวชาญ บรรยากาศที่เงียบสงบ ไปจนถึงลูกเล่นของบาร์และงานอีเวนท์ต่างๆ ที่เปลี่ยนใหม่เรื่อยๆ ทำให้ The Old Man รักษาสถานะอันทรงเกียรติของพวกเขาไว้ได้
The Pontiac เป็นบาร์ร็อกแอนด์โรลที่มีชีวิตชีวา โดดเด่นด้วยความสนุกสนานและค็อกเทลสุดสร้างสรรค์ บาร์แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศที่เป็นกันเองและพนักงานที่กระตือรือร้น จึงเป็นที่ชื่นชอบในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว แม้แต่แซม สมิธ นักร้องและนักแต่งเพลงชาวอังกฤษก็แวะมาดื่มเครื่องดื่มระหว่างทัวร์ครั้งล่าสุดในฮ่องกงด้วย เมนูเครื่องดื่มประกอบด้วยเครื่องดื่มอันมีศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณอันหลากหลายของบาร์ เช่น เมนู Hobnail ที่โดดเด่น ปัจจุบัน บาร์แห่งนี้ให้บริการเครื่องดื่มแปลกตาด้วยเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือการ์ตูน The Pontiac ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ และเน้นการบริการที่เป็นมิตรจึงมอบบรรยากาศมีชีวิตชีวาที่ทุกคนสามารถสนุกสนานได้ การตกแต่งเรียบง่ายและดนตรีเร้าใจช่วยสร้างภาพที่สมบูรณ์แบบสำหรับการออกไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนๆ
บาร์ The Wise King นำเสนออัญมณีล้ำค่าที่ซ่อนอยู่สำหรับผู้แสวงหาประสบการณ์ค็อกเทลชั้นเลิศ The Wise King ได้รับแรงบันดาลใจจากกษัตริย์อัลฟองโซที่ 10 ผู้ปกครองสเปนในศตวรรษที่ 13 จึงมีการผสมผสานประวัติศาสตร์เข้ากับศาสตร์การผสมเครื่องดื่มแบบสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ภายใต้การนำของนักผสมเครื่องดื่มอย่าง Sandeep Kumar บาร์แห่งนี้จึงมีเมนูค็อกเทลที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่งแต้มความร่วมสมัยให้กับสูตรคลาสสิก หากคุณอยากดื่มเนโกรนีที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ร้านนี้ก็มีเนโกรนีที่ดีที่สุดของเมืองให้ดื่ม
Bar Leone ได้รับตำแหน่งอันดับ 1 ใน Asia’s 50 Best Bars 2025 ซึ่งเป็นปีที่สองติดต่อกันที่บาร์แห่งนี้ได้รับความสนใจสูงสุด
ผลงานการสร้างสรรค์โดยมิกโซโลจิสต์ชื่อดัง Lorenzo Antinori, Bar Leone ในย่าน SoHo เปิดให้บริการในปี 2023 ปีแรกที่เปิดตัว บาร์แห่งนี้ได้รับตำแหน่งสูงสุดใน Asia’s 50 Best Bars 2024 และตำแหน่งรองชนะเลิศใน The World's 50 Best Bars 2024 กลายเป็นบาร์หน้าใหม่ที่ได้อันดับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ 50 Best Bars
บาร์ในย่านนี้มีบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย โปรแกรมบาร์ที่ยอดเยี่ยมซึ่งนำเสนอค็อกเทลคลาสสิกที่ถูกนำกลับมาปรับปรุงด้วยแนวทางที่เรียบง่าย และการบริการที่มีคุณภาพระดับโรงแรม ทำให้ Bar Leone เป็นที่ชื่นชอบของทั้งชาวท้องถิ่น นักท่องเที่ยว และบุคคลในวงการบาร์ ลองลิ้มรสเครื่องดื่มสร้างสรรค์ เช่น Olive Oil Sour ที่สดชื่น และค็อกเทลมาร์ตินีและเนโกรนีหลากหลายเมนู พร้อมกับของทานเล่นอย่างมะกอกรมควันและแซนด์วิชมอร์ตาเดลลาที่กลายเป็นตำนาน
Argo ตั้งอยู่ในโรงแรมโฟร์ซีซั่นของฮ่องกง โดยได้ชื่อมาจากเรือที่เจสันและอาร์โกนอตส์ในตำนานเทพเจ้ากรีกใช้โดยสารเพื่อตามหาขนแกะทองคำ บาร์แห่งนี้มีวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่งเพราะมีหน้าต่างบานใหญ่จากพื้นจรดเพดาน ทำให้แสงธรรมชาติสาดส่องเข้ามาได้อย่างเต็มที่ การตกแต่งภายในผสมผสานการออกแบบที่ทันสมัยเข้ากับองค์ประกอบจากธรรมชาติ สร้างบรรยากาศที่น่าดึงดูดและกลมกลืนกันเป็นอย่างดี บาร์แห่งนี้บริหารงานโดย Federico Balzarini มีเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย โดยเป็นสุราท้องถิ่นและสร้างสรรค์ขึ้นเองซึ่งหาไม่ได้จากที่ไหนในเมือง ค็อกเทลของที่นี่มักใช้ส่วนผสมในท้องถิ่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการดำเนินกิจการอย่างยั่งยืน เมนูปัจจุบันที่ชื่อ Argo Forestry ผสมผสานหลักการด้านการเกษตรและป่าไม้เข้าด้วยกัน สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดค็อกเทลโดดเด่นที่สะท้อนถึงความงามอันหลากหลายของผืนป่า ถึงแม้จะเป็นบาร์ในโรงแรม แต่แนวทางการผสมเครื่องดื่มที่สนุกสนานและเป็นกันเองของพวกเขา เมื่อผสานกับความแปลกใหม่ อย่างการใส่ลูกอมเยลลี่ลงในเมนูเครื่องดื่มอัดลม ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปยามออกท่องสถานบันเทิงยามค่ำคืนในเมือง
Coa ซึ่งตั้งชื่อตามเครื่องมือที่ใช้เก็บเกี่ยวต้นอะกาเว เป็นร้านที่แสดงความรักต่อสุราเม็กซิกัน บาร์แห่งนี้ก่อตั้งโดย Jay Khan และเป็นบาร์ที่มีสุราจากต้นอะกาเวมากที่สุดในฮ่องกง โดยมีเมซคาลและเตกีล่ากว่า 200 ขวด Coa สร้างชื่อเสียงโดยติดอันดับ 50 บาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียตั้งแต่ปี 2019 ค็อกเทลแก้วเด็ดอย่าง La Paloma de Oaxaca ที่ขอบแก้วโรยเกลือหนอน (Worm Salt) เน้นย้ำถึงความทุ่มเทของบาร์ในด้านคุณภาพและการสร้างสรรค์ บรรยากาศดิบ เท่ ย้อนยุคนิดๆ สไตล์อินดัสเทรียลชิคที่มีแสงเทียนส่องสว่างเหมาะสำหรับทั้งผู้ชื่นชอบสุราจากต้นอะกาเวและผู้มาเยือนที่อยากลองอะไรใหม่ๆ
Penicillin คือบาร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งแรกของฮ่องกง ซึ่งปฏิวัติวงการค็อกเทลด้วยแนวทางที่ไม่สร้างขยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บาร์แห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากแอนตี้ไบโอติกที่ล้ำสมัย และตั้งเป้าจะเป็นผู้นำในการดูแลสิ่งแวดล้อม ค็อกเทล One Penicillin One Tree ที่โดดเด่นของร้าน ซึ่งทำจากวิสกี้ที่เพิ่มไขมันด้วยไวท์ช็อกโกแลตนั้นเป็นมากกว่าแค่เครื่องดื่ม ทุกครั้งที่ซื้อเครื่องดื่มนี้ จะมีการปลูกต้นไม้หนึ่งต้นในป่าฝนกาลีมันตันบนเกาะบอร์เนียว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “One Penicillin, One Tree” ที่ร่วมมือกับ ecoSPIRITS และ Green Step Group ความมุ่งมั่นของ Penicillin ต่อการรักษาความยั่งยืนและการผสมเครื่องดื่มแบบใหม่อย่างสร้างสรรค์ทำให้ร้านแตกต่างจากร้านเครื่องดื่มอื่นๆ ในเมือง
ปลุกประสาทรับรสของคุณด้วยรสชาติอุมามิที่เข้มข้นและโดดเด่นที่ The Savory Project บาร์ค็อกเทลนวัตกรรมใหม่ที่ก่อตั้งโดยคู่ดูโอผู้คว้ารางวัล เจย์ ข่าน และ อาจิต กุรุง จาก Coa บาร์แห่งนี้ในย่าน SoHo เติมเต็มตลาดเฉพาะกลุ่มในวงการบาร์ของเมืองด้วยความเชี่ยวชาญด้านค็อกเทลรสเค็มที่ใช้วัตถุดิบที่มักพบในครัว เช่น เนื้อสัตว์ เห็ด และน้ำเกลือ จิบเครื่องดื่มสูตรพิเศษอย่าง Thai Beef Salad ที่ใช้รัมเป็นฐาน พร้อมพริกและใบมะกรูดเป็นเอกลักษณ์ ได้รับการยอมรับในเรื่องแนวทางที่ยอดเยี่ยมในการทำค็อกเทลและมิกโซโลยี และได้ครองตำแหน่งใน Asia’s 50 Best Bars ติดต่อกันเป็นปีที่สอง
Gokan เป็นธุรกิจแห่งแรกในฮ่องกงของมิกโซโลจิสต์ชาวญี่ปุ่นระดับโลก ชิงโกะ โกกัน ชื่อบาร์มาจากคำภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึง ‘ห้าประสาทสัมผัส’ บาร์แห่งนี้เปิดตัวที่อันดับ 33 ในรายการ Asia’s 50 Best Bars อันโด่งดังในปีแรกของการก่อตั้ง อย่าพลาดชิมค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรสชาติทั้งห้า ได้แก่ หวาน เปรี้ยว เค็ม ขม และอุมามิ เสิร์ฟแบบใส่น้ำแข็งหรือกรองเช็ด เช่นเดียวกับเมนูอาหารที่แบ่งออกเป็นห้าวิธีการปรุงพื้นฐาน และมีของทานเล่นสไตล์บาร์ญี่ปุ่นให้เลือกมากมาย เช่น ทูน่าทาร์ทาร์ โอเด้ง และน้ำแข็งไสคากิโกริ
เมื่อก้าวเข้าไปในร้าน 8 1/2 Otto e Mezzo Bombana ก็เหมือนได้ไปอิตาลี ทั้งที่อยู่ในฮ่องกง ร้านแห่งนี้ภาคภูมิใจที่เป็นร้านอาหารอิตาลีแห่งเดียวที่อยู่นอกอิตาลีซึ่งได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ถึงสามดาว นอกจากนี้ ยังมีบาร์แยกตัวออกมาที่คงคุณภาพและมาตรฐานสูงของร้านอาหารชื่อดังเอาไว้ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสวยงามซับซ้อน พร้อมด้วยที่นั่งหรูหรา และความรู้สึกที่ประณีต เมนูค็อกเทลที่นี่เชิดชูมรดกตกทอดของอิตาลี โดยมีเครื่องดื่มคลาสสิกที่นำมาปรุงใหม่พร้อมกลิ่นอายความทันสมัย โดยผสมผสานสุราที่ถูกลืมเลือนกับบิทเทอร์ท้องถิ่น เครื่องดื่มแต่ละแก้วได้รับการปรุงอย่างเชี่ยวชาญ มอบรสชาติประวัติศาสตร์อันยาวนานและรสสัมผัสแบบอิตาลี สะท้อนให้เห็นถึงชื่อเสียงของร้าน
Caprice Bar ในโรงแรมโฟร์ซีซั่นฮ่องกงมอบประสบการณ์การดื่มที่หรูหรา บาร์อันแสนอบอุ่นแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ Anyss Saintilan ผู้จัดการ Caprice Bar และมีบริเวณเชื่อมต่อกับ Caprice ร้านอาหารฝรั่งเศสของโรงแรมที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ เมนูของบาร์แห่งนี้มีไวน์ แชมเปญ และค็อกเทลที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถันซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก 6 ภูมิภาคของฝรั่งเศส โดยไม่ได้เน้นแค่เพียงผลผลิตที่เป็นที่รู้จักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัฒนธรรมและประเพณีของฝรั่งเศสที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักอีกด้วย หนึ่งในเมนูโดดเด่นของที่นี่ก็คือชีสที่คัดสรรมาอย่างดีซึ่งเข้ากับเครื่องดื่มชั้นเลิศได้อย่างสมบูรณ์แบบ การตกแต่งภายในด้วยที่นั่งอันหรูหราและทิวทัศน์สวยงามช่วยสร้างบรรยากาศที่หรูหราและเปี่ยมเสน่ห์ ไม่ว่าคุณจะจิบไวน์บอร์โดซ์หรือลองค็อกเทลสูตรพิเศษ Caprice Bar แห่งนี้ก็มอบการผสมผสานอันน่ารื่นรมย์ที่ผสานความเป็นเลิศด้านการทำอาหารและกลิ่นอายของปารีสให้คุณได้
DarkSide ตั้งอยู่ในย่านโรสวูดฮ่องกงอันหรูหรา โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อเล่น “Dark Side” ของเกาลูน และมีสุราจำพวกสีเข้มมากมาย อย่างรัมชั้นดี วิสกี้ และคอนยัค เมนูของร้านมีการพัฒนาอยู่เสมอ โดยเมนูค็อกเทลที่ชื่อว่า “หยินหยาง” ได้รับแรงบันดาลใจจากปรัชญาหยินหยางของจีนโบราณ ทั้งยังมีเครื่องดื่ม 8 ชนิดที่แสดงถึงหยินหยาง 4 ประเภทที่คู่กัน บรรยากาศเป็นกันเองพร้อมด้วยดนตรีแจ๊สสดช่วยเสริมประสบการณ์โดยรวมให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น มาจิบเครื่องดื่มค็อกเทลที่ผสมมาอย่างดีและปล่อยให้เพลงไพเราะจากศิลปินสดที่มากความสามารถพาคุณเข้าสู่โลกแห่งความสง่างามได้เลย
Lobster Bar ที่โรงแรมไอแลนด์แชงกรี-ลาเป็นบาร์ที่มอบพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจแสนหรูหราที่อยู่ห่างจากตัวเมืองที่พลุกพล่าน และยังเป็นบาร์ที่มีชื่อเสียงมายาวนานในฐานะสถานที่ฝึกฝนบาร์เทนเดอร์ที่มีชื่อเสียงของฮ่องกง บาร์แห่งนี้สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอด้วยอาหารทะเลชั้นยอดและค็อกเทลที่ปรุงอย่างเชี่ยวชาญ ที่นี่มีเครื่องดื่มหลากหลายชนิดหมุนเวียนกันไป โดยมีค็อกเทลคลาสสิกที่ผสานศิลปะเอเชีย สุราพื้นเมือง ไวน์ผสมเหล้า และเหล้าพรีเมียมเข้าไว้ด้วยกัน สำหรับผู้ไม่อยากดื่มแอลกอฮอล์ ก็มีเครื่องดื่มทำมือที่สั่งทำพิเศษไว้บริการเช่นกัน ด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาพร้อมด้วยการแสดงดนตรีแจ๊สสด Lobster Bar จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี
Mostly Harmless เป็นบาร์ค็อกเทลที่เสิร์ฟเครื่องดื่มที่ส่งตรงจากฟาร์มถึงแก้ว โดยมีบาร์เทนเดอร์ที่รังสรรค์เครื่องดื่มอันประณีตอย่าง Ezra Star เป็นหัวหน้าบาร์เทนเดอร์ซึ่งใช้ส่วนผสมจากท้องถิ่นสำหรับเครื่องดื่มเฉพาะของร้าน ชื่อของบาร์ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายเรื่อง The Hitchhiker's Guide to the Galaxy ทำให้ร้านมีแนวทางการผสมเครื่องดื่มที่สนุกสนานและสร้างสรรค์ เมนูตามฤดูกาลถูกขีดเขียนไว้ด้วยปากกาเมจิกบนผนังกระเบื้องสีขาวเก่าๆ ซึ่งเปลี่ยนมากที่สุดถึงวันละครั้ง แม้จะมีชื่อที่ดูร่าเริง แต่บาร์แห่งนี้ก็จริงจังกับศาสตร์ของพวกเขาทำให้ได้เมนูที่ทั้งสร้างสรรค์และอร่อย Mostly Harmless จึงกลายเป็นบาร์ที่มีชื่อเสียงในวงการบาร์ของฮ่องกงอย่างรวดเร็ว
Quinary เป็นสถานที่ที่วิทยาศาสตร์มาบรรจบกับการผสมเครื่องดื่มในแบบที่อร่อยที่สุด บาร์แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องค็อกเทลที่กระตุ้นประสาทสัมผัสหลายอย่างโดยใช้เทคนิคต่างๆ อย่างโฟม อากาศ และการชงเพื่อสร้างเครื่องดื่มที่เร้าหลากหลายประสาทสัมผัส อาทิ เมนู Earl Grey Caviar Martini อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งท็อปด้วยเนื้อสัมผัสแบบโฟมเป็นตัวอย่างของแนวทางที่สร้างสรรค์ของพวกเขา การตกแต่งภายในที่ทันสมัยและเก๋ไก๋ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับบาร์ที่ไม่เหมือนใครแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี ความทุ่มเทของ Quinary ในการก้าวข้ามขีดจำกัดของค็อกเทลทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่โปรดของผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่ม บาร์แห่งนี้ได้รับการยกย่องหลายครั้งในรายชื่อ 50 บาร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเอเชีย ซึ่งรับรองว่าการมาเยือนทุกครั้งของคุณจะเป็นประสบการณ์อันน่าจดจำ
Stockton ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตนอกกรอบและเต็มไปด้วยการผจญภัยของนักเขียนและนักข่าว ชื่อ ฮันเตอร์ เอส. ทอมป์สัน จึงกลายเป็นสถานที่ที่ทำให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมการดื่มสไตล์บาร์ลับ ในฐานะบาร์ลับแห่งแรกๆ ในฮ่องกง บาร์แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่หลังประตูอันเรียบง่ายบนถนนวินด์แฮม สถานที่แห่งนี้มีเมนูค็อกเทลที่ปรุงขึ้นอย่างประณีตหลากหลายชนิด แต่ละเมนูมีเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมด้วยเมนูตามฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้งซึ่งรับรองความสดใหม่และความตื่นเต้น การตกแต่งแบบผสมผสานและแสงไฟสลัวๆ ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเพลิดเพลินกับวิสกี้ระดับพรีเมียมหรือค็อกเทลที่อยู่เหนือกาลเวลา
Tell Camellia โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยเมนูเครื่องดื่มค็อกเทลผสมชา บาร์แห่งนี้ซึ่งนำโดย Gagan Gurung บาร์เทนเดอร์ชื่อดังชาวเนปาล มีเมนูเครื่องดื่มหลากหลายประเภท อย่างสุราและจินที่ปรุงขึ้นโดยใช้เทคนิคสมัยใหม่ เช่น การกลั่นและการหมุนเหวี่ยง ค็อกเทลแต่ละแก้วนำเสนอรสชาติจากประเทศต่างๆ โดยนำส่วนผสมคลาสสิกมาปรุงแต่งใหม่ด้วยวิธีอันชาญฉลาด เทคนิคสมัยใหม่และเครื่องดื่มที่คัดสรรมาอย่างดีของบาร์ทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดัง อีกทั้งหน้าต่างบานใหญ่และการตกแต่งภายในด้วยไม้โทนสีอบอุ่น ทำให้บาร์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เป็นกันเองและน่าดึงดูดใจสำหรับการดื่มด่ำเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของบาร์ ซึ่งรวมถึงเมนู T-Tonics ยอดนิยม ซึ่งเน้นย้ำแนวทางการใช้ชามาเป็นส่วนผสมที่สร้างสรรค์ของบาร์
The Aubrey ซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล สถานที่แห่งนี้ผสมผสานเสน่ห์แบบดั้งเดิมของอิซากายะญี่ปุ่นกับความสง่างามร่วมสมัยได้อย่างลงตัว โดยให้บริการแชมเปญและสุราญี่ปุ่นหลากหลายชนิด รวมถึงสาเกหายาก และยังมีค็อกเทลแปลกใหม่ที่ผสมผสานโชจูจาก 4 จังหวัดของญี่ปุ่นอีกด้วย ทุกวันศุกร์ สถานที่แห่งนี้จะปรับเปลี่ยนเป็นคลับสำหรับงาน “The Aubrey After Dark” ซึ่งเป็นงานหรูหราที่มีดนตรีสดจากดีเจชื่อดังทั้งในประเทศและต่างประเทศ
The Diplomat เป็นผลงานของ John Nugent นักผสมเครื่องดื่มที่ได้รับรางวัล บาร์ลับสุดเก๋แห่งนี้ให้บรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและมีสไตล์สำหรับผู้มาเยี่ยมชมบาร์ ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องมินิมาร์ตินี่ พั้นช์รสเด็ด และค็อกเทลคลาสสิกสุดสร้างสรรค์จึงเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มที่รังสรรค์อย่างประณีต The Diplomat ยังมี The Social Club พื้นที่พิเศษเฉพาะสำหรับการจองเท่านั้น โดยมีเมนูบาร์ของตัวเองและปุ่ม “กดเรียกแชมเปญ” อันทรงเสน่ห์ พร้อมด้วยคุกกี้อบสดใหม่ที่เสิร์ฟตอนเที่ยงคืนเพื่อเติมความหวานให้กับยามค่ำคืน ทำให้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับผู้ที่อยู่จนดึก
The Old Man ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายเรื่อง The Old Man and the Sea ของเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ โดยที่นี่ถือเป็นบาร์ที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของฮ่องกง สถานที่อันเป็นส่วนตัวแห่งนี้ประดับประดาด้วยแผงไม้และผนังที่เรียงรายไปด้วยหนังสือ สร้างฉากเบื้องหลังที่น่าดึงดูดสำหรับค็อกเทลที่สร้างสรรค์ เมนูของที่นี่ประกอบด้วยเครื่องดื่มธีมเฮมิงเวย์ ซึ่งแต่ละเมนูได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อสะท้อนถึงสไตล์ที่กล้าหาญและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนักเขียนในตำนาน ผู้มาเยือนสามารถจิบเครื่องดื่มได้ที่โต๊ะส่วนกลางรูปตัวไอ ซึ่งมีแถบทำความเย็นสีทองเพื่อรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่มให้เย็นพอดี ด้วยค็อกเทลที่รังสรรค์จากผู้เชี่ยวชาญ บรรยากาศที่เงียบสงบ ไปจนถึงลูกเล่นของบาร์และงานอีเวนท์ต่างๆ ที่เปลี่ยนใหม่เรื่อยๆ ทำให้ The Old Man รักษาสถานะอันทรงเกียรติของพวกเขาไว้ได้
The Pontiac เป็นบาร์ร็อกแอนด์โรลที่มีชีวิตชีวา โดดเด่นด้วยความสนุกสนานและค็อกเทลสุดสร้างสรรค์ บาร์แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศที่เป็นกันเองและพนักงานที่กระตือรือร้น จึงเป็นที่ชื่นชอบในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว แม้แต่แซม สมิธ นักร้องและนักแต่งเพลงชาวอังกฤษก็แวะมาดื่มเครื่องดื่มระหว่างทัวร์ครั้งล่าสุดในฮ่องกงด้วย เมนูเครื่องดื่มประกอบด้วยเครื่องดื่มอันมีศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณอันหลากหลายของบาร์ เช่น เมนู Hobnail ที่โดดเด่น ปัจจุบัน บาร์แห่งนี้ให้บริการเครื่องดื่มแปลกตาด้วยเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือการ์ตูน The Pontiac ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ และเน้นการบริการที่เป็นมิตรจึงมอบบรรยากาศมีชีวิตชีวาที่ทุกคนสามารถสนุกสนานได้ การตกแต่งเรียบง่ายและดนตรีเร้าใจช่วยสร้างภาพที่สมบูรณ์แบบสำหรับการออกไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนๆ
บาร์ The Wise King นำเสนออัญมณีล้ำค่าที่ซ่อนอยู่สำหรับผู้แสวงหาประสบการณ์ค็อกเทลชั้นเลิศ The Wise King ได้รับแรงบันดาลใจจากกษัตริย์อัลฟองโซที่ 10 ผู้ปกครองสเปนในศตวรรษที่ 13 จึงมีการผสมผสานประวัติศาสตร์เข้ากับศาสตร์การผสมเครื่องดื่มแบบสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ภายใต้การนำของนักผสมเครื่องดื่มอย่าง Sandeep Kumar บาร์แห่งนี้จึงมีเมนูค็อกเทลที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่งแต้มความร่วมสมัยให้กับสูตรคลาสสิก หากคุณอยากดื่มเนโกรนีที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ร้านนี้ก็มีเนโกรนีที่ดีที่สุดของเมืองให้ดื่ม
เยี่ยมชมเว็บไซต์นี้เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับร้านอาหาร บาร์ และโรงแรมในฮ่องกงที่ได้รับการแนะนำจาก 50 Best Discovery
ปีที่ได้รับรางวัล
ยกระดับประสบการณ์การดื่มของคุณด้วยของว่างรสเลิศที่เข้ากันได้ดีกับค็อกเทลของคุณ
ถ้าคุณต้องการบรรยากาศหรูหรา แนะนำให้ไปที่ Caprice Bar ในโรงแรม Four Seasons Hong Kong เพื่อเพลิดเพลินกับคานาเป้ระดับพรีเมียม เช่น คาเวียร์และชีสทำมือพร้อมค็อกเทลของคุณ หรือจะรับประทานอาหารที่ร้านอาหารชื่อดังผู้ชนะรางวัล Asia’s 50 Best Restaurant ข้าง ๆ ก็ได้ อีกทางเลือกหนึ่งคือ ลงไปที่ Argo เพื่อทานของว่างแบบบาร์อย่างวาฟเฟิลไข่สไตล์ฮ่องกง หรือเบอร์เกอร์อาร์โก้
แวะที่ The Aubrey ใน Mandarin Oriental เพื่อเพลิดเพลินกับอาหารอิซากายะญี่ปุ่นสมัยใหม่ เช่น ไก่คาราอาเกะ หรือวากิวทาร์ทาร์ คู่กับค็อกเทลที่มีฐานเป็นโชจูและเหล้าญี่ปุ่น
เช็คอินที่ DarkSide สำหรับของว่างอย่างเกี๊ยวซ่าหมูกรอบ โครเก็ตโชริโซ หรือไก่ทอดบัตเตอร์มิลค์ ถ้าอยากทานของหวาน จับคู่ช็อกโกแลตดำทำมือกับสุราหายาก ไวน์วินเทจ และค็อกเทลที่มีรสชาติท้องถิ่นสร้างสรรค์
การบาร์ฮอปในฮ่องกงเป็นเรื่องง่ายเพราะวงการบาร์ในเมืองนี้มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิด ไปที่บาร์ที่ได้รับรางวัล ‘Asia’s 50 Best Bars’ หลายแห่งในย่านเซ็นทรัลซึ่งอยู่ห่างกันไม่กี่นาที เพื่อความสนุกสนานตลอดคืน
เริ่มต้นที่ Bar Leone บาร์ย่านนี้ที่ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในบาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียและโลก ลอง Olive Oil Sour ที่เป็นการผสมผสานวิสกี้ซาวร์สไตล์อิตาเลียน พร้อมกับทานคู่กับมะกอกรมควัน
จากนั้นไปที่ Coa ผู้เชี่ยวชาญด้านสุราลาตินอเมริกา ลองชิมเตกีลา, เมซคาล, ไรซิลล่า และสุราที่ทำจากอะกาวที่หายาก
ลิ้มรสโมเลกุลมิกโซโลยีที่ Quinary กับค็อกเทลหลากหลายเนื้อสัมผัสและ Earl Grey Caviar Martini
ไปต่อที่ Penicillin บาร์แนวหน้าด้านความยั่งยืนบนถนน Cochrane ลองค็อกเทลแบบไร้ขยะหรือค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่ทำจากไวท์ช็อกโกแลตวิสกี้
ปิดท้ายคืนที่ The Savory Project บนถนน Shelley กับค็อกเทลที่ใช้ส่วนผสมรสเค็มและอุมามิอย่างซอสวูสเตอร์ รสดี และพริกเสฉวน
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดื่มประจำในวงการบาร์ฮ่องกงหรือผู้มาใหม่ที่ตื่นเต้น ลองสำรวจบาร์ที่ดีที่สุดซึ่งถูกจัดให้เป็นสมบัติลับในเมือง!
หากคุณไม่ชอบความวุ่นวาย ให้มาที่ถนน Ice House ในย่านเซ็นทรัลเพื่อค้นหา Gokan บาร์แห่งนี้มีค็อกเทลนวัตกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรสชาติทั้งห้า ได้แก่ หวาน เค็ม เปรี้ยว ขม และอุมามิ ให้คุณเลือกตามรสชาติที่ชอบ
หนึ่งในสปีกอีซี่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมือง The Diplomat มีค็อกเทลสร้างสรรค์หลากหลายเมนู และมีห้องลับสำหรับลูกค้า VIP ซึ่งซ่อนไว้อย่างชาญฉลาดเป็นส่วนหนึ่งของผนัง บาร์นี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องเบอร์เกอร์อร่อย และแจกคุกกี้ฟรีให้ลูกค้าหลังเที่ยงคืน
หากคุณต้องการพักจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลองไปที่ Mostly Harmless ในย่านไซ่อิงปุน ซึ่งมีเครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์ที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่น หมักและเพาะเองในร้าน หรือจะลองค็อกเทลกระป๋องแบบไม่มีแอลกอฮอล์ในรสชาติที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงชาอูหลงสูตรยาจีนและคอมบูชามะพร้าวรมควัน
เสน่ห์ของบาร์ไม่ได้มีแค่ค็อกเทลรสชาติดีเท่านั้น แต่สภาพแวดล้อมของบาร์ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน ที่บาร์ DarkSide ในโรสวูดฮ่องกง ลูกค้าสามารถจิบเครื่องดื่มที่สร้างสรรค์พร้อมชมทัศนียภาพอันกว้างไกลของอ่าววิคตอเรียท่ามกลางการตกแต่งที่หรูหราและแสงสลัว อย่าลืมเงยหน้าขึ้นไปชมการติดตั้งเพดานรูปนาฬิกาทรายซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการผันผ่านของเวลา พระอาทิตย์ที่กำลังตกดินสร้างการเล่นแสงและเงาที่สวยงามในพื้นที่คล้ายเรือนกระจกของ Argo ในโรงแรมโฟร์ซีซั่นฮ่องกง ค็อกเทลตามฤดูกาลของ Argo ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตเข้ากันได้ดีกับการออกแบบที่หรูหรา โดยมีใบไม้แกะสลักด้วยเลเซอร์ สวนขวดแก้วแบบแขวน และห้องกระจกส่วนตัวที่ประดับด้วยผีเสื้อและแมลงกระดาษทำมือ
เพื่อค่ำคืนอันน่าจดจำกับคนที่คุณรัก ฮ่องกงก็มีเหล่าบาร์ที่โรแมนติกที่สุดให้คุณเลือก The Aubrey มอบความประทับใจด้วยวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามา โดยมีบาร์สามสไตล์ และการตกแต่งภายในที่อบอุ่นเป็นกันเอง พร้อมด้วยสีสันและพื้นผิวที่ผสานกันอย่างลงตัว บรรยากาศดึงดูดใจนี้จะเชื้อเชิญให้คุณก้าวเข้าไปด้านใน เพื่อสร้างความใกล้ชิดและสานสัมพันธ์กับคู่ของคุณ Caprice Bar เปี่ยมล้นด้วยความสง่างามของการตกแต่งที่หรูหราและวิวท่าเรืออันงดงาม แสงไฟสลัว ที่นั่งอันหรูหรา พร้อมทั้งไวน์ สุรา และค็อกเทลที่สร้างสรรค์มากมายช่วยรังสรรค์บรรยากาศที่เหมาะสำหรับค่ำคืนอันโรแมนติก
ผู้ที่ต้องการฟังดนตรีสดสามารถไปที่ Lobster Bar ในไอแลนด์แชงกรี-ลาซึ่งมีนักดนตรีแจ๊สบรรเลงสดให้กับแขกในทุกวัน พร้อมเสิร์ฟค็อกเทลตามธีมต่างๆ คลอไปกับเสียงดนตรี หากต้องการปิดท้ายค่ำคืนแบบมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น ให้ไปที่ The Pontiac ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องพลังร็อกแอนด์โรลที่มีชีวิตชีวา ทีมบาร์ที่เป็นผู้หญิงล้วน พร้อมเมนูเครื่องดื่มที่สร้างสรรค์และเข้มข้น ตู้เพลงที่เล่นเพลงร็อกยุค 80 และ 90 ช่วยเพิ่มกลิ่นอายแห่งการหวนรำลึกให้กับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา บาร์ทั้งสองแห่งมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งจะทำให้ค่ำคืนนี้กลายเป็นค่ำคืนที่ไม่มีวันลืม